Beach for life พาเพื่อนๆไปสำรวจเรื่องราวของรอดักทรายในประเทศไทย
เมื่อวันก่อน Beach for life นำเสนอเรื่องการรื้อรอดักทรายบริเวณพระราชนิเวศน์มฤคทายวันไปแล้ว หลายคนอาจสงสัยว่า “รอดักทราย” คืออะไร ทำหน้าที่อะไร วันนี้ Beach for life จะมาช่วยไขข้อสงสัยกัน
รอดักทราย หรือ คันดักทราย เป็นหนึ่งในโครงสร้างป้องกันชายฝั่ง มีลักษณะคล้ายกำแพงป้องกันคลื่นริมชายฝั่งทะเลแต่สร้างตั้งฉากกับแนวชายฝั่งทะเล เพื่อ ดักตะกอนทรายที่เคลื่อนที่ตามแนวขนานกับชายฝั่งทะเล ทำให้การพัดพาตะกอนทรายช้าลง
รอดักทราย ทำให้เกิดการสะสมตัวของตะกอนทราย ป้องกันการพัดพาตะกอนทรายออกนอกชายฝั่ง ช่วยลดพลังงานคลื่นและอิทธิพลของกระแสน้ำเลียบชายฝั่งได้ในระดับหนึ่ง ซึ่งอาจมีรูปร่างแตกต่างกันเช่นเป็นรูปตัว T ตัว I ตัว Y โดยสามารถใช้วัสดุได้หลายประเภท เช่น ไม้ หินทิ้ง คอนกรีตเสริมเหล็ก เป็นต้น
ผลกระทบของรอดักทรายนั้น จะทำให้เกิดการกัดเซาะทางด้านท้ายน้ำ (Downdrift) และทับถม ด้านเหนือน้ำ (Updrift) อาจเกิดอันตรายสำหรับการเล่นน้ำบริเวณใกล้โครงสร้าง และเกิดอันตรายต่อการเดินเรือประมงขนาดเล็ก เนื่องจากกระแสน้ำปั่นป่วนบริเวณใกล้โครงสร้าง ส่งผลเสียต่อทัศนียภาพริมทะเล หากมีคลื่นลมพายุขนาดใหญ่ มักเกิดความเสียหายด้าน บนของคันดักตะกอน ต้องมีการซ่อมแซมเป็นประจำ
ปัจจุบันหากจะมีการก่อสร้างรอดักทราย จะต้องทำรายงานการศึกษาผลกระทบสิ่งแวดล้อม(EIA) ก่อนดำเนินการก่อสร้าง เราจึงไม่ค่อนมักเห็นรอดักทรายบริเวณชายฝั่งสักเท่าไหร่ เนื่องจากมีขั้นตอนทางกฎหมายมากมายกว่าจะก่อสร้างได้
เรารู้จักโครงสร้างรอดักทรายกันแล้วว่าคืออะไร และมีหน้าที่อย่างไร Beach for life อยากพาเพื่อนไปสำรวจรอดักทรายที่สร้างในประเทศไทยกัน และมีเรื่องราวที่เกี่ยวข้องกับรอดักทรายที่น่าสนใจ
การสร้างเขื่อนกันทรายและคลื่นปากร่องน้ำโกลก และ รอดักทราย เรื่อยมาทางทิศเหนือตลอดแนวกว่า 20 กิโลเมตร บนคาบสมุทรตากใบ จังหวัดนราธิวาส ทำให้เกิดการกัดเซาะชายฝั่งอย่างรุนแรงบริเวณด้านเหนือรอดักทรายตัวสุดท้าย จนทำให้ที่ดินถูกกัดเซาะชายฝั่ง ไป 18 ไร่ จาก 20 ไร่ ทำให้เจ้าของที่ดินฟ้องร้องคดีต่อศาลปกครองสงขลา และต่อสู้คดียาวนานกว่า 16 ปี จนวันที่ 26 กุมภาพันธ์ 2563 ศาลปกครองสูงสุดมีคำพิพากษาออกมา และได้อ่านคำพิพากษาเมื่อ 10 มิถุนายน 2563 ให้กรมชลประทานชดใช้ค่าเสียหายให้แก่ผู้ฟ้องคดีจำนวน 2.224 ล้านบาท พร้อมดอกเบี้ยร้อยละ 7.5 ต่อปี นับแต่วันฟ้องเป็นต้นไป และให้คืนค่าธรรมเนียมศาลแก่ผู้ฟ้องตามส่วนของการชนะคดี กรณีทำให้เห็นว่า ศาลปกครองสูงสุดเชื่อว่าการกัดเซาะชายฝั่งที่เกิดขึ้นทำให้ที่ดินของผู้ถูกฟ้องคดีหายไป เกิดจากโครงสร้างของกรมชลประทานที่สร้างลงไปในทะเล จนทำให้เกิดการกัดเซาะชายฝั่ง
การรื้อถอนรอดักทรายจำนวน 3 ตัว หน้าพระราชนิเวศมฤคทายวัน จังหวัดเพชรบุรี เรื่องราวนี้เกิดขึ้น จากการที่ คณะกรรมการนโยบายและแผนบริหารจัดการทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่งแห่งชาติ ได้ประชุม เมื่อวันที่ 27 กันยายน 2564 และมีมติที่ประชุมเห็นชอบแนวทางการฟื้นฟูระบบนิเวศชายหาดในพื้นที่พระราชนิเวศน์มฤคทายวันฯ ให้สอดคล้องกับสภาพธรรมชาติ โดยรื้อรอดักทรายจำนวน 3 ตัว คือ ตัวที่ 3 ตัวที่ 4 และ ตัวที่ 5 ซึ่งตั้งอยู่ด้านหน้าพื้นที่พระราชนิเวศน์มฤคทายวันฯ ร่วมกับใช้มาตรการเสริมอื่นๆที่จำเป็น ซึ่งทำให้กรมเจ้าท่าต้องตั้งงบประมาณในปี 2566 เพื่อรื้อถอนโครงสร้างรอดักทรายบริเวณหน้าพระราชนิเวศน์มฤคทายวัน จำนวน 3 ตัว และฟื้นฟูชายฝั่งด้วยมาตรการที่จำเป็นและเหมาะสมต่อไป
Beach for life ชวนเรียนรู้ ทำความเข้าใจ 2 เรื่องราวที่นำมาเล่าให้เพื่อนๆฟังเพื่อให้เรารู้จักรอดักทราย ซึ่งเป็นโครงสร้างป้องกันชายฝั่งกันมากขึ้น
อ่านบทความที่เกี่ยวข้องเพิ่มเติม
[1] รื้อรอดักทราย พระราชนิเวศมฤคทายวันฯ https://beachforlife.org/blog/10
[2] คดีประวัติศาสตร์ชายหาดตากใบ
Author
Beach For Life
แหล่งรวบรวมความรู้และข้อมูลที่เกี่ยวกับชายหาด
แบ่งปันสิ่งนี้
โครงการก่อสร้างเขื่อนป้องกันตลิ่งริมทะเล พร้อมปรับปรุงภูมิทัศน์พื้นที่ชายฝั่งหาดมหาราช อำเภอสทิงพระ จังหวัดสงขลา โครงการนี้ ดำเนินการโดย กรมโยธาธิการและผังเมือง
กรณีพิพาทโครงการป้องกันการกัดเซาะชายฝั่งหาดมหาราช จังหวัดสงขลา ซึ่งภาคประชาชนได้รวมกันฟ้องคดีตั้งแต่ปี 2564 เพื่อขอให้ศาลปกครองสงขลามีคำพิพากษาเพิกถอนโครงการและคำสั่งคุ้มครองชั่วคราว
ในช่วง 2-3 ปีที่ผ่านมากระแสการเรียกร้องให้เกิดการแก้ไขปัญหาการกัดเซาะชายฝั่งด้วยมาตรการเติมทรายชายฝั่งนั้นมีมากขึ้น และหลังจากกรณีการเติมทรายชายฝั่งหาดพัทยาโดยกรมเจ้าท่าแล้วเสร็จ ทำให้ประชาชนเห็นว่ามาตรการเติมทรายนั้น อาจเป็นทางเลือกในการแก้ไขปัญหาการกัดเซาะชายฝั่งได้ และทำให้ได้ชายหาดกลับมา Beach for life ชวนสำรวจพื้นที่ชายหาดที่จะมีการเเก้ไขปัญหาการกัดเซาะชายฝั่งด้วยมาตรการเติมทรายชายฝั่ง