ที่ผ่านมามีข่าวกำแพงกันคลื่นระบาดไปตามชายหาดต่างๆ
เหมือนจะหมดหวัง กับการฟื้นฟูชายหาดของประเทศไทย เพราะกำแพงกันคลื่นระบาดหนักเหลือเกิน
แต่คอนเทนต์นี้น่าจะช่วยทำให้คนที่รักชายหาด รักทะเลได้ใจชื้นขึ้นมาหน่อย
กับการรื้อรอดักทรายหน้าพระราชนิเวศน์มฤคทายวัน จังหวัดเพชรบุรี
การรื้อรอดักทรายนี้จะเป็นตัวอย่างของการรื้อโครงสร้างป้องกันชายฝั่ง เพื่อฟื้นคืนสมดุลชายฝั่ง ถือเป็นที่เเรกๆที่มีการใช้มาตรการรื้อถอนสิ่งปลูกสร้าง เเทนการสร้างต่อไปเรื่อยๆ
ก่อนจะเข้าเรื่องการรื้อรอดักทราย ต้องอธิบายลักษณะชายหาดแถบนี้กันหน่อย ชายหาดบริเวณนี้มีการเคลื่อนที่ของตะกอนทรายโดยสุทธิจากด้านใต้ไปทางด้านเหนือ(คลองบังตราใหญ่ ไป คลองบังตราน้อย) บริเวณปากคลองบังตราใหญ่มีการสร้างเขื่อนกันทรายปากคลองบังตราใหญ่ ทำให้ตะกอนทรายที่เคลื่อนจากด้านใต้ไปเหนือ ทับถมฝั่งด้านใต้ของเขื่อนกันทรายปากคลองบังตราใหญ่ ส่วนด้านเหนือเกิดการกัดเซาะชายฝั่ง ทำให้มีการก่อสร้างรอดักทรายเพื่อป้องกันการกัดเซาะชายฝั่ง จำนวน 8 ตัว ต่อเนื่องจนถึง ปากคลองบังตราน้อย ซึ่งมีเขื่อนกันทรายและคลื่นปากคลองบังตราน้อยตั้งอยู่ โครงสร้างทั้งหมดที่กล่าวมานั้นก่อสร้างโดยกรมเจ้าท่า และยังมีโครงสร้างอื่นๆด้วย ซึ่งทำให้ชายหาดเกิดการเปลี่ยนแปลงไป
การมีมติให้รื้อรอดักทราย หน้าพระราชนิเวศน์มฤคทายวันฯ เกิดขึ้นเมื่อวันที่ 27 กันยายน 2564 คณะกรรมการนโยบายและแผนบริหารจัดการทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่งแห่งชาติ ได้ประชุม และมีมติที่ประชุมเห็นชอบแนวทางการฟื้นฟูระบบนิเวศชายหาดในพื้นที่พระราชนิเวศน์มฤคทายวันฯ ให้สอดคล้องกับสภาพธรรมชาติ โดยรื้อรอดักทรายจำนวน 3 ตัว คือ ตัวที่ 3 ตัวที่ 4 และ ตัวที่ 5 ซึ่งตั้งอยู่ด้านหน้าพื้นที่พระราชนิเวศน์มฤคทายวันฯ ร่วมกับใช้มาตรการเสริมอื่นๆที่จำเป็น
ก่อนหน้านี้ทางกรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง ได้ว่าจ้างที่ปรึกษาจัดทำแนวทางการฟื้นฟูระบบนิเวศชายหาดในพื้นที่พระราชนิเวศน์มฤคทายวันฯ ให้สอดคล้องกับธรรมชาติ โดยได้มีข้อเสนอให้รื้อรอดักทรายตั้งแต่คลองบังตราน้อยลงไปทางใต้จนถึงคลองบังตราใหญ่ จำนวน 8 ตัวของกรมเจ้าท่า ให้มีการถ่ายเททรายจากด้านใต้ของเขื่อนกันทรายปากร่องคลองบังตราใหญ่ เพื่อให้ตะกอนทรายสามารถไหลได้ตามสมดุลชายหาด และยังมีมาตรการอื่นๆอีกในรายการศึกษา แต่อย่างไรก็ตามทางคณะกรรมการนโยบายและแผนบริหารจัดการทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่งแห่งชาติ ในการประชุมครั้งที่ 2/2564 ได้มีมติให้รื้อรอดักทรายจำนวน 3 ตัว ของกรมเจ้าท่า และได้มีการตั้งบประมาณในการรื้อรอดักทรายตามมติตั้งกล่าว ซึ่งจะเข้าสู่การพิจารณาของสภาผู้แทนราษฎร ในวาระการพิจารณางบประมาณรายงานประจำปี 2566
การมีมติให้รื้อโครงสร้างรอดักทรายที่บริเวณหน้าพระราชนิเวศน์มฤคทายวันฯ นั้น นับได้ว่าเป็นการรื้อถอนโครงสร้างป้องกันชายฝั่งที่แรกๆ ของประเทศไทย
ที่ผ่านมาทางเครือข่ายที่ติดตามปัญหาการกัดเซาะชายฝั่ง ได้เรียกร้องต่อหน่วยงานให้รื้อถอนโครงสร้างที่ไม่จำเป็น ไม่มีประสิทธิภาพบริเวณชายฝั่งทะเล เช่น สะพานปลา รอดักทราย หรือ กำแพงกันคลื่นที่ชำรุด เพื่อคืนสมดุลชายฝั่ง แต่มาตรการการรื้อถอนโครงสร้างเหล่านี้ไม่เคยเกิดขึ้น การรื้อถอนรอดักทรายครั้งนี้จะเป็นกรณีแรกที่สำคัญและน่าจับตาเป็นอย่างยิ่งว่าจะเป็นอย่างไรต่อไป
Author
อภิศักดิ์ ทัศนี
รักทะเล เเต่ชอบภูเขา เรื่องสิ่งเเวดล้อม คือ การเมือง
แบ่งปันสิ่งนี้
โครงการก่อสร้างเขื่อนป้องกันตลิ่งริมทะเล พร้อมปรับปรุงภูมิทัศน์พื้นที่ชายฝั่งหาดมหาราช อำเภอสทิงพระ จังหวัดสงขลา โครงการนี้ ดำเนินการโดย กรมโยธาธิการและผังเมือง
กรณีพิพาทโครงการป้องกันการกัดเซาะชายฝั่งหาดมหาราช จังหวัดสงขลา ซึ่งภาคประชาชนได้รวมกันฟ้องคดีตั้งแต่ปี 2564 เพื่อขอให้ศาลปกครองสงขลามีคำพิพากษาเพิกถอนโครงการและคำสั่งคุ้มครองชั่วคราว
ในช่วง 2-3 ปีที่ผ่านมากระแสการเรียกร้องให้เกิดการแก้ไขปัญหาการกัดเซาะชายฝั่งด้วยมาตรการเติมทรายชายฝั่งนั้นมีมากขึ้น และหลังจากกรณีการเติมทรายชายฝั่งหาดพัทยาโดยกรมเจ้าท่าแล้วเสร็จ ทำให้ประชาชนเห็นว่ามาตรการเติมทรายนั้น อาจเป็นทางเลือกในการแก้ไขปัญหาการกัดเซาะชายฝั่งได้ และทำให้ได้ชายหาดกลับมา Beach for life ชวนสำรวจพื้นที่ชายหาดที่จะมีการเเก้ไขปัญหาการกัดเซาะชายฝั่งด้วยมาตรการเติมทรายชายฝั่ง