ชายหาดดอนทะเล อำเภอท่าชนะ จังหวัดสุราษฎร์ธานี ชายหาดของชุมชนที่เผชิญกับโครงการก่อสร้างกำแพงกันคลื่น โดยกรมโยธาธิการและผังเมือง ชายหาดดอนทะเล เป็นชายหาดที่ชุมชนใช้ประโยชน์ในการส่งเสริมการท่องเที่ยวชุมชน มีตลาดริมชายหาด มีการทำประมงริมชายฝั่งทะเล มีการหาหอยริมชายหาด ด้วยลักษณะทางกายภาพที่เป็นหาดทราย และเป็นดินทรายปนโคลนบริเวณหน้าหาด จึงเหมาะแก่การเป็นเเหล่งอนุบาลของหอยนานาชนิด โดยเฉพาะ หอยขาว หอยเเครง และหอยตาควาย ในช่วงฤดูหอยเกิด คือ ช่วงเดือนพฤศจิกายนของทุกปี เป็นช่วงที่ผู้คนจากทั่วสารทิศต่างเดินทางมาหาลูกหอยที่ชายหาดตลอดแนวชายหาดของตำบลท่าชนะ และตำบลคันธุลี จึงถือได้ว่าผืนทรายแถบนี้เป็นเเหล่งที่อยู่สำคัญของหอยนานาชนิด
ช่วงปี พ.ศ. 2558-2559 ร่องความกดอากาศสูงกำลังแรง พัดผ่านจากจีนลงมาทำให้ชายฝั่งทะเลในพื้นที่อ่าวไทยนั้นมีคลื่นลมแรง โดยในปลายปี พ.ศ. 2561 ต่อเนื่องถึงต้นปี พ.ศ.2562 เป็นช่วงที่พายุปาบึกพัดผ่านชายฝั่งอ่าวไทยตอนล่าง หาดดอนทะเล ก็ได้รับผลกระทบบางส่วนด้วยเช่นกัน เป็นเหตุให้เกิดการกัดเซาะชายฝั่ง ทำให้องค์การบริหารส่วนตำบลคันธุลี ได้ร้องขอการป้องกันการกัดเซาะชายฝั่ง พร้อมส่งภาพการกัดเซาะชายฝั่งหาดดอนทะเล ไปยังกรมโยธาธิการและผังเมือง จึงเกิดการออกเเบบโครงการก่อสร้างเขื่อนป้องกันตลิ่งริมทะเลหาดดอนทะเล ตำบลคันธุลี อำเภอท่าชนะ จังหวัดสุราษฎร์ธานีขึ้น
การกัดเซาะชายฝั่งในช่วงเวลาดังกล่าวนำมาซึ่งโครงการเพื่อป้องกันชายฝั่งแบบถาวร คือ โครงการก่อสร้างเขื่อนป้องกันตลิ่งริมทะเลหาดดอนทะเล ตำบลคันธุลี อำเภอท่าชนะ จังหวัดสุราษฎร์ธานี โดยกรมโยธาธิการและผังเมือง ระยะทาง 1,291 เมตร เป็นกำแพงกันคลื่นเเบบเรียงหิน งบประมาณ 70,230,000 บาท ตั้งของบประมาณปี 2563 ผูกพัน 4 ปี ตั้งแต่ปี 2563-2566
การเกิดขึ้นโครงการกำแพงกันคลื่นหาดดอนทะเล มีที่มาจากการอ้างปัญหาการกัดเซาะชายฝั่งที่เกิดขึ้น ในช่วงมรสุมและช่วงพายุปาบึกพัดผ่าน ซึ่งท้องถิ่นได้ส่งภาพการกัดเซาะชายฝั่งบริเวณหาดดอนทะเล ไปยังกรมโยธาธิการและผังเมือง
เเต่เมื่อเวลาผ่านไป จากการลงสำรวจสภาพชายหาดดอนทะเล ในปี 2564 กลับพบว่า สภาพชายหาดดอนทะเล นั้นไร้ร่องรอยการกัดเซาะชายฝั่งอย่างรุนแรง และเห็นได้ชัดว่าการกัดเซาะชายฝั่งที่เกิดนั้น เป็นเพียงการกัดเซาะชายฝั่งในลักษณะชั่วคราว เมื่อผ่านพ้นช่วงมรสุมและพายุปาบึกผ่านไปเเล้ว ชายหาดสามารถฟื้นฟูสภาพกลับมาได้เอง
ข้อมูลการวิเคราะห์การเปลี่ยนเเปลงชายฝั่ง โดย www.beachlover.net ระบุว่า เมื่อวิเคราะห์ถึงการเปลี่ยนแปลงพื้นที่ชายฝั่งของหาดดอนทะเลโดยใช้ภาพถ่ายดาวเทียม Google earth ที่นำไปผ่านการปรับพิกัดภูมิศาสตร์แล้ว และใช้แนวพืชพรรณถาวรบริเวณชายฝั่ง (Permanent vegetation line) เป็นแนวชายฝั่งตามนิยาม พบว่ามีแนวชายฝั่งเปลี่ยนแปลงในลักษณะของการทับถมและการกัดเซาะสลับไปมา
เมื่อวิเคราะห์การเปลี่ยนแปลงรายปี พบว่า หาดดอนทะเลเกิดการกัดเซาะในช่วงปี 2557-2558 ในอัตรา -0.415 เมตร/ปี, ช่วงปี 2558-2559 ในอัตรา -4.67 เมตร/ปี, ช่วงปี 2560-2561 ในอัตรา -2.84 เมตร/ปี, และ ช่วงปี 2562-2563 ในอัตรา -1.06 เมตร/ปี ซึ่งสอดคล้องกับสถานการณ์มรสุมตะวันออกเฉียงเหนือกำลังแรง ที่เกิดขึ้นสองช่วงเวลาคือ ประมาณวันที่ 25-26 มกราคม 2559 และ 7-8 กุมภาพันธ์ 2559 ที่ส่งผลให้ชายหาดภาคใต้ตอนล่างเกิดการกัดเซาะหลายพื้นที่ สำหรับหาดดอนทะเลพบว่าเกิดการกัดเซาะไปบ้าง โดยเมื่อวิเคราะห์แล้วพบว่ามีอัตราการกัดเซาะในช่วงเวลานี้ 4.67 เมตร/ปี ผลจากเหตุการณ์นี้เองทำให้เกิดการริเริ่มโครงการป้องกันชายฝั่งหาดดอนทะเลตลอดทั้งแนว
เมื่อการสำรวจสภาพชายฝั่งหาดดอนทะเล ร่วมกับการข้อมูลวิเคราะห์ผลการกัดเซาะชายฝั่งในเเต่ละปี กลับพบว่าไม่สอดคล้องกับข้อมูลการกัดเซาะชายฝั่งที่กรมโยธาธิการและผังเมือง อ้างว่ามีความจำเป็นต้องก่อสร้างกำแพงกันคลื่น ประกอบกับการที่ชุมชนเห็นตัวอย่างของกำแพงกันคลื่นหาดสำเร็จ อำเภอ ท่าชนะ ซึ่งอยู่ห่างจากหาดดอนทะเลเพียง 10 กิโลเมตร พบว่าเมื่อกำแพงกันคลื่นแล้วเสร็จจะทำให้สภาพชายหาดเปลี่ยนจาก หาดทรายกลายเป็นกองหิน ไม่สามารถหาหอยและทำกิจกรรมริมชายหาดได้ดังเดิม ชุมชนดอนทะเล จึงเริ่มคัดค้านโครงการก่อสร้างกำแพงกันคลื่น
การเคลื่อนไหวต่อสู้เพื่อปกป้องหาดดอนทะเล มีชนวนสำคัญมาจากการที่กรมโยธาธิการและผังเมือง ไม่เปิดเผยผลกระทบของกำแพงกันคลื่นอย่างตรงไปตรงมา และการดำเนินการก่อสร้างนั้นจำเป็นต้องตัดต้นสนและพืชริมชายหาดตลอดแนวพื้นที่โครงการทำให้ชุมชนเริ่มต้นที่จะคัดค้านโครงการ โดยการขึ้นป้ายตามพื้นที่ต่างๆของชุมชน และการจัดเวทีให้ความรู้แก่คนในชุมชน รวมถึงการเคลื่อนไหวต่างๆจนนำมาสู่การปกป้องชายหาดดอนทะเลไว้ได้สำเร็จ ในช่วงการเคลื่อนไหวเพียง 4 เดือน กรมโยธาธิการและผังเมือง ยอมเพิกถอนโครงการก่อสร้างกำแพงกันคลื่นออกจากพื้นที่และคืนงบประมาณโครงการดังกล่าวไปยังสำนักงบประมาณ
วันที่ 28 กันยายน 2564 กรมโยธาธิการฯ ได้มีหนังสือไปยังสำนักงบประมาณ เพื่อขอคืนงบประมาณโครงการก่อสร้าง กำแพงกันคลื่นหาดดอนทะเล อำเภอท่าชนะ จังหวัดสุราษฎร์ธานี โดยมีเหตุผลในการคืนงบประมาณโครงการว่า “เพื่อไม่ให้เกิดความขัดแย้งในพื้นที่ดำเนินโครงการ และสภาพชายหาดดอนทะเลได้มีสภาพเปลี่ยนเเปลงไป จึงขอคืนงบประมาณโครงการดังกล่าว” เท่ากับว่าโครงการก่อสร้างกำแพงกันคลื่นหาดดอนทะเลได้ถูกยกเลิกโครงการไปอย่างถาวร
บทเรียนของหาดดอนทะเล สะท้อนให้เห็นว่าประเด็นสำคัญ คือ การกัดเซาะชายฝั่งที่เกิดขึ้นจากพายุ หรือในช่วงมรสุมนั้น เป็นเพียงการกัดเซาะชายฝั่งในลักษณะชั่วคราว เเต่หน่วยงานที่ไม่เข้าใจกระบวนการทางธรรมชาตินี้กลับมองว่าเพื่อการป้องกันอย่างมั่นคงถาวรจึงต้องสร้างกำแพงกันคลื่น
ในขณะเดียวกัน การต่อสู้ของภาคประชาชนในพื้นที่อื่น ทำให้เห็นบทเรียนของการพังทลายของชายหาดจากการสร้างกำแพงกันคลื่น เป็นตัวอย่างสำคัญที่ทำให้ชุมชนเห็นบทเรียนเชิงประจักษ์และทำให้พวกเขาไม่ยินยอมที่จะให้ชายหาดดอนทะเลกลายเป็นกำแพงกันคลื่น เพราะจะกลายเป็นมรดกบาปที่รัฐทิ้งไว้กับชุมชนอีกแห่งหนึ่ง
Author
Beach For Life
แหล่งรวบรวมความรู้และข้อมูลที่เกี่ยวกับชายหาด
บทความวันที่ 4 กันยายน 2568
แบ่งปันสิ่งนี้
1 พฤศจิกายนนี้ ศาลปกครองสูงสุดจะอ่านคำพิพากษาในคดีเกี่ยวกับการก่อสร้างโครงสร้างป้องกันชายฝั่งหาดคลองวาฬ จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ โดย เทศบาลคลองวาฬเเละกรมเจ้าท่านั้นชอบด้วยกฎหมายหรือไม่ Beach for life ชวนย้อนอ่านเรื่องราวที่เกิดขึ้น
ย้อนไปเมื่อปี 2537 เรือ Genar-II เกยหาดชลาทัศน์ จังหวัดสงขลา การเกยตื้นของเรือในครั้งนั้นทำให้ชายหาดชลาทัศน์เปลี่ยนเเปลงไปอย่างน่าสนใจ เพราะเรือทำตัวเป็นเหมือน "รอดักทราย" ชายหาดที่มีเรือมาเกยตื้นกว่า 2 ปีจะเป็นอย่างไร ชวนติดตามอ่านด้วยกัน
รอดักทราย คืออะไร ? เวลาเห็นโครงสร้างป้องกันชายฝั่งในทะเลที่ตั้งฉากกับชายหาดนั้นเรียกว่า รอดักทราย เเล้วผลกระทบเป็นอย่างไร มีที่ไหนบ้าง ชวนอ่านในบทความ