ท่ามกลางเสียงคัดค้านเรียกร้องให้ยุติเวทีรับฟังความคิดเห็นครั้งที่ 3 โครงการพัฒนาท่าเรือน้ำลึกเเหลมริ่ว จังหวัดชุมพร เเละ ท่าเรือน้ำลึกแหลมอ่าวอ่าง จังหวัดระนอง ตามประกาศการจัดรับฟังความคิดเห็นประชาชนครั้งที่ 3 เพื่อทบทวนร่างรายงานการประเมินผลกระทบสิ่งเเวดล้อมเเละสุขภาพ(EHIA) ท่าเรือน้ำลึกชุมพร-ระนอง ในวันที่ 5-6 สิงหาคม 2568 จัดโดยสำนักงานนโยบายเเละเเผนการขนส่งเเละจราจร(สนข.) กระทรวงคมนาคม
มะทม สินสุวรรณ ชาวบ้านในพื้นที่แหลมอ่าวอ่าง จุดเริ่มต้นโคงการถมทะเลเพื่อก่อสร้างท่าเรือน้ำลึกในโครงการแลนด์บริดจ์กว่า 6,900 ไร่ ออกเดินเท้าจากบ้าน เพื่อคัดค้านการรับฟังความคิดเห็นครั้งที่ 3 ในโครงการ
ในขณะเดียวกัน 74 นักวิชาการทั่วประเทศหลากหลายสาขา ได้ออกเเถลงการณ์ภายหลังเวทีวิพากษ์ EHIA ท่าเรือน้ำลึกเเลนด์บริดจ์ชุมพร-ระนอง โดยระบุเหตุผล "การนำร่างรายงาน EHIA ที่มีความบกพร่องทางวิชาการทั้งในเชิงเนื้อหา และความผิดพลาดของข้อมูลในหลายมิติไปรับฟังความคิดเห็นประชาชนนั้น เป็นสิ่งที่ไม่ถูกต้องและไม่เป็นธรรม จึงเรียกร้องให้ สนข.ทบทวนร่างรายงาน EHIA ท่าเรือน้ำลึกแลนด์บริดจ์และยุติการจัดเวที ค.3" อย่างไรก็ตาม สนข.ได้เดินหน้าจัดเวทีรับๆฟังความคิดเห็นท่ามกลางเสียงคัดค้านและเรียกร้องจากหลากหลายฝ่าย
Beach for life สรุปเหตุผลที่ต้องหยุดเวที ค.3 ท่าเรือน้ำลึกแลนด์บริดจ์ชุมพร-ระนอง
โครงการท่าเรือน้ำลึกแลนด์บริดจ์ชุมพร-ระนอง ถูกแยกส่วนการศึกษารายงานการประเมินผลกระทบสิ่งแวดล้อมและสุขภาพ(EHIA) ออกเป็น 2 เล่มรายงาน ได้แก่ รายงาน EHIA ท่าเรือแหลมริ่ว และ รายงาน EHIA ท่าเรือแหลมอ่าวอ่าง และแต่ละเล่มของรายงานกำหนดรัศมีการศึกษาที่ 5 กิโลเมตร รอบพื้นที่โครงการ เมื่อพิจารณาแล้วพบว่าไม่ครอบคลุมพื้นที่ผลกระทบทางสิ่งแวดล้อมและสุขภาพ รวมถึงผู้ที่อาจได้รับผลกระทบทางสิ่งแวดล้อม การกำหนดระยะขอบเขตการศึกษาไว้เพียงแค่ 5 กิโลเมตร ทำให้ผลกระทบนอกรัศมีไม่ได้รับการศึกษา อาทิ เช่น เกาะพยามที่จะได้ผลกระทบมากที่สุดทั้งในมิติการท่องเที่ยว การกัดเซาะชายฝั่ง แนวปะการัง ก็ถูกศึกษาเพียงเสี้ยวเดียวเท่านั้น หรือ แม้แต่ชุมชนที่ได้รับผลกระทบจากโครงการท่าเรือน้ำลึกแหลมอ่าวอ่างมีเพียง 6 ชุมชน ทั้งที่ชุมชนหาดทรายดำ ซึ่งห่างออกไปเพียง 6.3 กิโลเมตร แต่ใช้ดอนตาแพ้วและอ่าวอ่างในการทำประมงกลับไม่ได้อยู่ในการศึกษา EHIA
พื้นที่ชายฝั่งทะเลอันดามันเหนือ ได้แก่ จังหวัดพังงา และ จังหวัดระนอง ถูกเสนอให้อุทยานทางทะเลจำนวน 6 แห่ง ได้รับการเสนอชื่อเพื่อขึ้นทะเบียนมรดกโลก เนื่องจากบริเวณพื้นที่ดังกล่าวมีระบบนิเวศทางทะเลหลากหลายและมีลักษณะเด่นเฉพาะ และโครงการแลนด์บริดจ์ โดยเฉพาะท่าเรือน้ำลุกฝั่งแหลมอ่าวอ่าง จังหวัดระนอง ซึ่งตั้งอยู่ในพื้นที่กันชนที่ถูกเสนอให้ขึ้นทะเบียนมรดกโลกด้วย แต่กลับพบว่าไม่มีผลการศึกษาใดๆในร่างรายงาน EHIA ว่าการผลักดันโครงการแลนด์บริดจ์นี้จะกระทบต่อความหลากหลายทางชีวภาพ และคุณค่าอันโดดเด่นอย่างไร หรือจะได้รับความเสียหายจากการดำเนินโครงการอย่างไร
การดำเนินการโครงการถมทะเลในสองพื้นที่ชายฝั่ง ภายใต้โครงการแลนด์บริดจ์ ซึ่งเป็นโครงการถมทะเลขนาดใหญ่ที่สุดในประเทศ แต่กลับไม่พบว่าการดำเนินการถมทะเล จะส่งผลกระทบต่อพื้นที่ชายฝั่งอย่างไร ในขณะที่การตั้งคำถามต่อประเด็นการกัดเซาะชายฝั่งและการเปลี่ยนแปลงของสภาพสมุทรศาสตร์ในกรณีหลังการสร้างท่าเรือ เป็นประเด็นสำคัญที่ สนข. ถูกตั้งคำถามในทุกๆเวทีรับฟังความคิดเห็นของประชาชน แต่กลับไม่พบการศึกษาในประเด็นนี้ในรายงาน EHIA ทำให้ไม่สามารถที่จะกำหนดมาตรการป้องกันผลกระทบทางสิ่งแวดล้อมและสุขภาพได้อย่างเป็นรูปธรรม
การให้คะแนนเลือกพื้นที่ตั้งท่าเรือและรูปแบบท่าเรือที่มีการใช้ค่าคะแนนที่ไม่เหมาะสม ให้สัดส่วนคะแนนด้านสังคมและสิ่งแวดล้อมน้อยกว่าด้านมูลค่าการลงทุนและวิศวกรรมอย่างอธิบายไม่ได้
ในพื้นที่ตั้งโครงการมีกลุ่มประชากรเฉพาะ เปราะบาง อย่างกลุ่ม ชาวเลมอแกน ในพื้นที่เกาะช้าง เกาะพยาม เกาะเหลา จำนวนกว่า 400 คน และบริเวณตามแนวชายฝั่งยังมีกลุ่มคนไทยผลัดถิ่น(คนไทยที่ยังไม่ได้รับการพิสูจน์สัญญาชาติตามกฎหมาย) ซึ่งพวกเขาต้องอยู่ในพื้นที่และหากินประกอบอาชีพตามแนวชายฝั่งทะเลระนอง กว่า 1000 คน ซึ่งทั้งหมดนี้ไม่ถูกประเมินและศึกษาในร่างรายงาน EHIA ว่าจะได้รับผลกระทบจากการดำเนินโครงการอย่างไร การพัฒนาท่าเรือน้ำลึกจะส่งผลกระทบต่อชีวิต วิถีชีวิต และความเป็นอยู่ของพวกเขาอย่างไร
การดำเนินการก่อสร้างโครงการแลนด์บริดจ์ ใช้งบประมาณก่อสร้างท่าเรือน้ำลึกเฟส 1 ขนาด 20 ล้าน TEUs ไม่สามารถประกันความคุ้มค่าในทางเศรษฐกิจ อีกทั้งทางจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ได้ศึกษาความเหมาะสมและความคุ้มค่าในการลงทุนโครงการดังกล่าวไว้ กลับพบว่า ไม่คุ้มค่าแก่การลงทุน แต่ สนข.กลับไม่รับข้อมูลทางวิชาการ และเลือกเดินหน้าโครงการอย่างต่อเนื่อง
ในร่างรายงานการศึกษาในมิติการท่องเที่ยว พบว่า ไม่ได้มีการศึกษาว่าพื้นที่ชายฝั่งทะเลชุมพร-ระนองมีต้นทุนและศักยภาพด้านการท่องเที่ยวอย่างไร รวมถึง ผลกระทบต่อการท่องเที่ยวนอกจากการสูญเสียภูมิทัศน์ชายฝั่งทะเลที่สวยงามไป ทั้ง ๆ ที่การท่องเที่ยวเชิงนิเวศ คือ หัวใจสำคัญของการขับเคลื่อนกิจกรรมทางเศรษฐกิจและการกระจายรายได้สู่ชุมชนในพื้นที่จังหวัดระนองและชุมพร
การศึกษาปัจจัยเสี่ยงที่สำคัญต่อโครงการ กลับพบว่าในร่างรายงานมีการศึกษาความเสี่ยงภัยจากเหตุน้ำมันรั่วไหล เพียงด้านเดียวซึ่งไม่เพียงพอ เนื่องจากพื้นที่ชายฝั่งจังหวัดระนอง และจังหวัดชุมพร มีความเสี่ยงที่สำคัญๆ เช่น ความเสี่ยงจากแผ่นดินไหวเนื่องจากอยู่ใกล้รอยเลื่อนมีพลัง ความเสี่ยงจากสึนามิในพื้นที่ชายฝั่งจังหวัดระนอง ความเสี่ยงต่อเหตุไฟไหม้และการระเบิด หรือความเสี่ยงต่อพายุที่มีความรุนแรงกว่าปกติ เป็นต้น
กระบวนการมีส่วนร่วมในการศึกษามีข้อสงสัยหลายประการ เช่น เวที ค.1 การมีส่วนร่วมที่เชิญเพียงกลุ่มเฉพาะ ไม่ได้เปิดกว้างให้กลุ่มผู้มีส่วนได้เสียเข้าร่วม เวที ค.2 ขาดการผลศึกษาจากกลุ่มอาชีพหรือกลุ่มผู้รับผลกระทบโดยตรงจำนวนมาก รวมถึงการเปิดรับฟังความคิดเห็นเพียงแค่ 45 นาทีต่อครั้ง
ในร่างรายงาน EHIA ท่าเรือน้ำลึกแลนด์บริดจ์ชุมพร-ระนอง พบว่า มีข้อมูลที่คาดเคลื่อนจากความเป็นจริงจนน่าผิดสังเกต เช่น จำนวนบุคลากรทางการแพทย์มีมากกว่าจำนวนจริง จำนวนสัตว์หน้าดินที่มีน้อยผิดปกติในพื้นที่ที่มีความหลากหลายทางชีวภาพ ถูกเสนอให้เป็นพื้นที่ขึ้นทะเบียนมรดกโลก และน้อยกว่าการศึกษาในอดีตที่ผ่านมา เสมือนว่าจงใจให้เห็นข้อมูลด้านความหลากหลายทางชีวภาพแล้วพบว่าไม่มีความสมบูรณ์และไม่มีความหลากหลายทางชีวภาพ อีกทั้งยังพบว่า ข้อมูลที่ใช้ในรายงานเกือบทั้งหมดเป็นข้อมูลทุติยภูมิ ไม่ได้ระบุผลกระทบต่อประเด็นต่างๆ รวมถึงการเก็บข้อมูลส่วนใหญ่ที่เป็นข้อมูลทุติยภูมิมากกว่าการใช้เป็นข้อมูลปฐมภูมิ (primary data)
ทั้งหมดนี้คือ ข้อสังเกตทางวิชาการที่ตั้งคำถามต่อร่างรายงานการประเมินผลกระทบสิ่งแวดล้อมและสุขภาพ(EHIA) ของโครงการท่าเรือน้ำลึกแลนด์บริดจ์ชุมพร-ระนอง และเป็นเหตุผลสำคัญในการประกอบข้อเรียกร้องจากภาคประชาชนให้ สนข. หยุดจัดเวที ค.3 ที่จะนำร่างรายงาน EHIA ที่ไม่ต้องกับความจริง ผิดพลาด คาดเคลื่อนทั้งสองฉบับนี้กลับไปทบทวนทำใหม่ทั้งหมด
Author
Beach For Life
แหล่งรวบรวมความรู้และข้อมูลที่เกี่ยวกับชายหาด
บทความวันที่ 11 สิงหาคม 2568
แบ่งปันสิ่งนี้
โครงการท่าเรือน้ำลึกมาบตาพุด ท่าเรือขนาดใหญ่ที่มีการถมทะเล ทำให้เกิดการเปลี่ยนเเปลงของชายฝั่งตลอดเเนวชายหาดสุชาดา หาดเเสงจันทร์ ถึงหาดปากน้ำระยอง ชวนสำรวจผลกระทบจากการกัดเซาะชายฝั่งที่เกิดขึ้นจากท่าเรือน้ำลึกมาบตาพุด
ท่ามกลางห้วงเวลาที่มีการอภิปรายพระราชบัญญัติงบประมาณรายจ่ายประจำปี 2567 ที่กำลังอยู่ในสภาผู้เเทนราษฎรนั้น Beach for life ชวนคลี่เเละส่องงบประมาณเพื่อการป้องกันชายฝั่งในร่างงบประมาณรายจ่ายประจำปี 2567 งบกำเเพงกันคลื่นเยอะเเค่ไหนในปีงบประมาณนี้ ?
"เป็นไปได้ไง พื้นที่ที่ถูกเสนอขึ้นทะเบียนมรดกโลกมีสัตว์หน้าดินเพียง 1 ชนิด 7 ตัวต่อ 1 ตารางเมตร" นี่คือสิ่งที่นักวิทยาศาสตร์ทางทะเลอย่างอาจารย์ศักดิ์อนันต์ ปลาทอง ตั้งคำถามต่อผลการศึกษาความหลากหลายทางชีวภาพในร่างรายงาน EHIA ท่าเรือน้ำลึกระนอง เเละท้าลงพื้นที่สำรวจ Beach for life ชวนดูความผิดปกติของร่างรายงาน EHIA ฉบับนี้ร่วมกัน