กรมโยธาธิการเเละผังเมือง จัดการประชุมรับฟังความคิดเห็นประชาชนครั้งที่ 3 ในโครงการศึกษาเเละออกเเบบกำเเพงกันคลื่นบริเวณอ่าวต้นไทร เกาะพีพี จังหวัดกระบี่ โดยผลการประชุมรับฟังความคิดเห็นประชาชนเลือกมาตรการ "กำเเพงกันคลื่นเเบบเกเบี้ยน"
Beach for life ชวนย้อนเหตุการณ์ที่มาของการสร้างกำเเพงกันคลื่นที่บนเกาะพีพี เเละข้อสังเกตต่อการศึกษาผลกระทบสิ่งเเวดล้อมเเละออกเเบบกำเเพงกันคลื่นบนเกาะพีพี
เมื่อช่วงประมาณวันที่ 30 กรกฎาคม 2567 ที่ผ่านมาปรากฎภาพกำแพงกันดินเเละทางเท้าบริเวณอ่าวต้นไทร เกาะพีพี จังหวัดกระบี่ พังเสียหายจากการที่คลื่นกระโจนข้ามกำเเพงกันดิน
ช่วงเวลาดังกล่าวเป็นช่วงมรสุมซึ่งชาวบ้านในพื้นที่เรียกว่า "ลมหัวนอน" ซึ่งเป็นช่วงที่มรสุมฝั่งทะเลอันดามันจะมีความรุนเเรง ทำให้คลื่นกระโจนเข้ามาปะทะกำเเพงกันคลื่นจนได้รับความเสียหาย
เมื่อย้อนไปดูกำเเพงกันดินซึ่งพังเสียหายนั้น พบว่า เป็นโครงสร้างทางเดินเท้า เสาไฟฟ้า ที่วางลงไปบนชายหาด เริ่มดำเนินการก่อสร้างในเมื่อ 23 มิถุนายน 2568 เเล้วเสร็จเมื่อ 17 พฤษภาคม 2569 งบประมาณ 14.78 ล้านบาท เเละยังมีการตั้งงบประมาณในการซ่อมเเซมด้วยงบ 1.74 ล้านบาทโดยองค์การบริหารส่วนตำบลอ่าวนาง ในงบประมาณปี 2562
ซึ่งโครงสร้างดังกล่าวนั้นได้พังเสียหายทั้งหมด เนื่องจากฐานโครงสร้างที่ไม่เเข็งเเรง เเละวางตัวอยู่บนชายหาดเมื่อคลื่นปะทะทำให้คลื่นกระโจนข้ามเเละตะกรุยทรายหน้ากำเเพงออกไปจนโครงสร้างทรุดตัวเเละเสียหายในที่สุด
เมื่อโครงสร้างกำเเพงกันดินอ่าวต้นไทร พังเสียหาย ทำให้หน่วยงานในพื้นที่เเละกรมโยธาธิการเเละผังเมือ เข้ามาศึกษาเเละเตรียมดำเนินการป้องกันเเละเเก้ไขปัญหาการกัดเซาะชายฝั่ง
โดยกรมโยธาธิการเเละผังเมือง ได้ดำเนินการศึกษาเเละจัดการรับฟังความคิดเห็นประชาชนผ่านมา 2 ครั้ง โดยครั้งที่ 3 ซึ่งกำหนดจัดในวันที่ 11 มิถุนายน 2568 ที่ผ่านมา ณ สำนักงานองค์การบริหารส่วนตำบลอ่าวนาง ผลการประชุมรับฟังความคิดเห็นได้สรุปเคาะรูปเเบบ เขื่อนหินเกเบียน(Gabion) คล้ายกับเขื่อนกันคลื่นเดิม ระยะทาง 529 เมตร โดยมีการเสริมความแข็งแรงของฐานเขื่อนด้วยการตอกเสาเข็มและสร้างคานปูนเพื่อกั้นไม่ให้กล่องหินเกเบียนพังทลาย พร้อมจัดทำ เสาผูกเรือ ม้านั่งคอนกรีตตลอดแนวก่อสร้าง
ทั้งนี้ ได้มีการชี้แจงรายละเอียดถึงผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม มาตรการป้องกันและแก้ไข มาตรการติดตามตรวจสอบผลกระทบสิ่งแวดล้อม พร้อมทั้งรับฟังข้อคิดเห็น ข้อเสนอแนะต่อโครงการ เพื่อลดผลกระทบและสนองต่อความต้องการของชุมชน
นายไชยวัฒน์ โอภาสพิมลธรรม โยธาธิการและฝังเมืองจังหวัดกระบี่ เปิดเผยว่า เมื่อได้ความเห็นชอบในรูปแบบการก่อสร้างแล้วเสร็จ ก็จะดำเนินการเสนอโครงการของบประมาณ ประมาณ 63 ล้านบาทในการก่อสร้างโครงการดังกล่าว ซึ่งคาดว่าจะทันปีงบประมาณปี 2571 และจะใช้เวลาในการก่อสร้างประมาณ 2 ปี
หลังจากนี้ต้องจับตาโครงการกำเเพงกันคลื่นเกาะพีพีอย่างใกล้ชิดต่อไปว่าจะเกิดขึ้นได้หรือไม่ เเน่นอนว่าโครงการดังกล่าวต้องจัดทำรายงานการประเมินผลกระทบสิ่งแวดล้อม(EIA) ซึ่งต้องผ่านความเห็นชอบของคณะกรรมการผู้ชำนาญการเเละคณะกรรมการสิ่งเเวดล้อมเเห่งชาติก่อนการดำเนินการต่อไป
Author
Beach For Life
แหล่งรวบรวมความรู้และข้อมูลที่เกี่ยวกับชายหาด
บทความวันที่ 11 มิถุนายน 2568
แบ่งปันสิ่งนี้
หลายคนอาจสับสนระหว่างคำว่า “เขื่อนกันคลื่น” กับ “กำแพงกันคลื่น” ในทางวิชาการ “เขื่อนกันคลื่นหรือ Breakwater” กับ “กำแพงกันคลื่นหรือ Seawall” นั้น เป็นโครงสร้างป้องกันชายฝั่งคนละประเภทกัน และมีวัตถุประสงค์ และการออกแบบการก่อสร้างที่แตกต่างกันโดยสิ้นเชิง Beach for life ชวนไปรู้จักเขื่อนกันคลื่นด้วยกัน
ตลอดห้วงเวลา 10 ปีที่สังคมไทยรับรู้เเละถกเถียงปัญหาการกัดเซาะชายฝั่ง รวมถึงปรากฎการณ์กำเเพงกันคลื่นที่ระบาดอย่างรุนเเรงจนหลายพื้นที่กลายเป็นกระเเสทางสังคมที่ถูกพูดถึง จวบจนการเรียกร้องให้กำเเพงกันคลื่นกลับมาทำเป็นโครงการที่ต้องทำ EIA จนสำเร็จ Beach for life ชวนคุณอภิศักดิ์ ทัศนี มาสนทนาเกี่ยวกับปรากฎการณ์ที่เกิดขึ้น เเละ สิ่งที่ซ้อนอยู่ภายใต้ภูเขาน้ำแข็ง
ภาพเสาเข็มที่ถูกตอกคาบนชายหาดสนกระซิบ เเละ ป้ายชื่อโครงการหาดดวงตะวันที่หลุดพัง คือ หลังฐานว่าสองโครงการกำเเพงกันคลื่นเมืองระยอง ถูกทิ้ง สร้างไม่เสร็จ Beach for life ชวนสำรวจข้ออ้างของกรมโยธาธิการเเละผังเมือง ในการอ้างเผือผลักดันกำเเพงกันคลื่น