หลายคนคงเคยไปตามปากเเม่น้ำในฝั่งอ่าวไทยเเละเห็นโครงสร้างที่ยื่นออกไปตั้งฉากกับเเนวชายฝั่งคู่กัน โครงสร้างนั้นคือ "เขื่อนกันทรายเเละคลื่น" หรือที่เรียกว่า Jetty
เขื่อนกันทรายและคลื่น(Jetty) เป็นโครงการป้องกันปากร่องน้ำ มีหน้าที่ในการป้องกันปากร่องน้ำไม่ให้มีตะกอนทรายมาทับถม เป็นโครงสร้างที่ล็อคปากร่องน้ำไม่ให้เกิดการเปลี่ยนเเปลง เพื่อการเดินเรือเข้าออกปากร่องน้ำได้โดยสะดวก
ในอดีตนั้นปากร่องน้ำมักเปลี่ยนเเปลงไปตามกระบวนการชายฝั่ง เเละตะกอนที่มาทับถมบริเวณปากร่องน้ำ เเละปากร่องน้ำเปลี่ยนเเปลงไปมา ทำให้การเข้าออกบริเวณปากร่องน้ำนั้นเป็นไปด้วยความลำบาก กรมเจ้าท่าจึงได้ดำเนินการก่อสร้างเขื่อนกันทรายเเละคลื่นบริเวณปากร่องน้ำขึ้นเพื่อการเดินเรือ
ภายหลังจากการมีนโยบายในการก่อสร้างเขื่อนกันทรายเเละคลื่น โดยกรมเจ้าท่าเป็นหน่วยงานหลักนั้น ทำให้ประเทศไทยมีเขื่อนกันทรายและคลื่นจำนวน 65 ตัวตลอดเเนวชายฝั่งในประเทศไทย โดยเขื่อนกันทรายเเละคลื่นทั้งหมด เกิดขึ้นในพื้นที่ชายฝั่งอ่าวไทยทั้งสิ้น
สำหรับฝั่งอันดามันนั้น มีความพยามในการศึกษาการสร้างเขื่อนกันทรายเเละคลื่นบริเวณปากร่องน้ำบ้านน้ำเค็ม ซึ่งปัจจุบันอยู่ระหว่างการศึกษาความเหมาะสมเเละผลกระทบทางสิ่งเเวดล้อม
เขื่อนกันทรายเเละคลื่น หรือ Jetty นั้น เป็นโครงสร้างชายฝั่งทะเล ที่ส่งผลกระทบต่อกระบวนการชายฝั่งเเละการเปลี่ยนเเปลงชายฝั่งมากที่สุด มีรายงานในประเทศไทยพบว่า การก่อสร้างเขื่อนกันทรายเเละคลื่นปากร่องน้ำทำให้ตะกอนทรายชายฝั่งเสียสมดุล เป็นต้นเหตุสำคัญในการกัดการกัดเซาะชายฝั่งในปัจจุบัน เนื่องจากการก่อสร้างเขื่อนกันทรายเเละคลื่นนั้นทำให้ตะกอนทรายชายฝั่งที่พัดพาตามเเนวชายฝั่งนั้นถูกดักไว้สะสมตัวบริเวณด้านหนึ่งของเขื่อนกันทรายเเละคลื่นทำให้ไม่สามารถไหลไปหล่อเลี้ยงชายฝั่งอีกด้านได้ จนเกิดการกัดเซาะชายฝั่งอย่างรุนเเรง
กรณีการเขื่อนกันทรายเเละคลื่นปากร่องน้ำทะเลสาบสงขลา จังหวัดสงขลา พบว่า ภายหลังจากการก่อสร้างเขื่อนกันทรายเเละคลื่นเเล้วเสร็จในปี 2510 เขื่อกันทรายเเละคลื่นได้ทำหน้าที่ดักตะกอนทรายไว้ ส่งผลให้ทำให้เเผ่นดินบริเวณแหลมสนอ่อน อำเภอเมืองสงขลา เกิดการงอกสะสมอย่างต่อเนื่อง ภายในระยะเวลาตั้งเเต่ปี พ.ศ 2510 - 255 พบพื้นที่งอกจาการสะสมกว่า 497.42 ไร่
กรณีการก่อสร้างเขื่อนกันทรายเเละคลื่นปากร่องน้ำสะกอม จังหวัดสงขลา พบว่า ภายหลังจากก่อสร้างเขื่อนกันทรายเเละคลื่นปากร่องน้ำสะกอม ทำให้เกิดการกัดเซาะชายฝั่งอย่างรุนเเรง จนทำให้เกิดชายหาดที่มีความชันเป็นหน้าผาสูงกว่า 4 เมตรตลอดเเนวชายฝั่งตั้งเเต่บ้านบ่อโซน บ้านโคกสัก จนถึงลานหอยเสียบ รวมระยะทางกว่า 5 กิโลเมตร ในขณะที่พื้นที่ด้านทิศตะวันออกของเขื่อนกันทรายเเละคลื่น(หาดสะกอม อำเภอเทพา) เกิดการงอกสะสมตัวอย่างต่อเนื่อง
ปัญหาการกัดเซาะชายฝั่งอันเป็นผลจากการก่อสร้างเขื่อนกันทรายเเละคลื่นปากร่องน้ำสะกอม ทำให้ประชาชนในพื้นที่นำคดีไปฟ้องร้องต่อศาลปกครอง ในปี 2551 เนื่องจากการดำเนินโครงการดังกล่าวทำให้ชายหาดเกิดการกัดเซาะชายฝั่งอย่างรุนเเรง เเละส่งผลกระทบต่อวิถีชีวิตของประชาชนในพื้นที่
เขื่อนกันทรายเเละคลื่น เป็นโครงสร้างที่ส่งผลกระทบต่อชายฝั่ง ระบบนิเวศเเละชุมชน จึงทำให้โครงการดังกล่าวนั้นถูกกำหนดให้เป็นโครงการหรือกิจการที่ต้องจัดทำรายงานการประเมินผลกระทบสิ่งเเวดล้อม(EIA) ก่อนการดำเนินโครงการ ตามประกาศกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติเเละสิ่งเเวดล้อม
การศึกษาการก่อสร้างเขื่อนกันทรายเเละคลื่นในหลายพื้นที่นั้น กำหนดให้มีการบรรเทาผลกระทบจากการดำเนินโครงการก่อสร้างโดยการถ่ายเททรายข้ามฝั่งในปริมาณที่เหมาะสม เพื่อรักษาสมดุลตะกอนทรายชายฝั่ง เเละลดผลกระทบจากการกัดเซาะชายฝั่ง รวมถึงหากไม่มีการถ่ายเทรายในระยะยาวอาจส่งผลให้ตะกอนที่งอกสะสมในอีกฝั่งตกลงสู่ปากร่องน้ำได้
รายงานการศึกษาผลกระทบสิ่งเเวดล้อม กรณีก่อสร้างเขื่อนกันทรายเเละคลื่นห้วยยาง อำเภอทับสะเเก จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ กำหนดให้ภายหลังการก่อสร้างเขื่อนกันทรายเเละคลื่น กรมเจ้าท่าต้องดำเนินการถ่ายเทรายข้ามปากร่องน้ำ เพื่อลดปัญหาการกัดเซาะชายฝั่ง
เเต่อย่างไรก่อตามการก่อสร้างเขื่อนกันทรายทั้ง 65 ตัวทั่วชายฝั่งในประเทศไทย กลุ่ม Beach for life พบว่ามีโครงการถ่ายเททรายเกิดขึ้นในปี 2558 เเละมีเพียงปีละ 2-3 พื้นที่เท่านั้น เมื่อเทียบกับการก่อสร้างเขื่อนกันทรายเเละคลื่นที่เกิดขึ้น 65 เเห่ง ถือว่ามาตรการบรรเทาผลกระทบด้วยการถ่ายเททรายเป็นมาตรการที่ไม่สามารถดำเนินการให้เกิดขึ้นจริงได้ตามรายงานการศึกษาผลกระทบสิ่งเเวดล้อมที่กำหนด ทำให้ชายฝั่งในประเทศไทยเกิดการกัดเซาะชายฝั่งอย่างต่อเนื่องอันเป็นผลจากเขื่อนกันทรายเเละคลื่น
สำรวจโครงสร้างเขื่อนกันทรายเเละคลื่นทั่วประเทศไทยได้ที่ https://beachforlife.org/situation?jetty=true
Author
Beach For Life
แหล่งรวบรวมความรู้และข้อมูลที่เกี่ยวกับชายหาด
บทความวันที่ 19 พฤษภาคม 2568
แบ่งปันสิ่งนี้
ถอดบทเรียนปัญหาสิ่งเเวดล้อมภายใต้การบังคับใช้ พ.ร.บ. EEC ก่อนจะถูกโคลนนิ่งมาเป็น พ.ร.บ. SEC ร่าง พ.ร.บ. SEC ที่ถูกเสนอเข้าไป และคาดว่าร่างของรัฐบาลที่กำลังจะมีมติ ครม. มอบให้ สนข.เป็นผู้เสนอร่าง พ.ร.บ. SEC Beach for life ชวนถอดบทเรียนดูปัญหาสิ่งแวดล้อมเชิงประจักษ์ที่เกิดขึ้นภายใต้การบังคับใช้กฎหมาย EEC ที่เป็นร่างโคลนนิ่งของ พ.ร.บ. SEC
มกราคมของทุกปี เป็นช่วงที่ความกดอากาศสูงกำลังแรงปกคลุมประเทศไทย ทำให้ภาคเหนือ และกรุงเทพมหานครมีอากาศหนาวเย็น และเป็นช่วงเวลาเดียวกันที่ทะเลในภาคใต้ฝั่งอ่าวไทยแปรปรวนและคลื่นลมแรง ซึ่งนับเป็นธรรมชาติของชายหาดและฤดูกาลของทะเลในแถบนี้ ช่วงเวลานี้ อ่าวประจวบคีรีขันธ์ จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ คือ พื้นที่ที่ถูกกล่าวถึงเกี่ยวกับ “คลื่นคลั่ง” หรือ “คลื่นยักษ์” ซึ่งมีความสูงมากถึง 4-5 เมตร ที่ปะทะชายฝั่งและกระโจนข้ามถนนตลอดแนวอ่าวประจวบฯ เกิดอะไรขึ้นทำไมคลื่นจึงคลั่ง ชวนไขคำตอบไปด้วยกัน
7 พฤศจิกายน 2555 เป็นวันที่คุณพีระ ตันติเศรษณี อดีตนายกเทศมนตรีนครสงขลาถูกลอบสังหารกลางเมืองสงขลา ก่อนการจากไปของคุณพีระ ได้ทิ้งเรื่องราว คุณูปการต่อเมืองสงขลา ผ่านสิ่งที่เรียกว่า "สงขลานิเวศนคร" ผ่านมา 12 ปีที่จากไป ชวนรำลึกถึงพีระ ตันติเศรษณีร่วมกัน