กรมชลประทาน ได้ดำเนินการก่อสร้างเขื่อนกันน้ำเซาะบริเวณปากคลองระบายน้ำคลองหนัง ตำบลสนามชัย อำเภอสทิงพระ จังหวัดสงขลา มูลค่า 10,000,000 บาท เพื่อป้องกันคลื่นกัดเซาะพนังกันตลิ่งริมคลอง โดยโครงสร้างเขื่อนกันน้ำเซาะนั้น มีลักษณะเป็นกล่องกระชุหินวางตั้งฉากกับชายหาด ยื่นทับชายหาด 30 เมตร จำนวน 2 ตัว โครงการดังกล่าวนี้ดำเนินการภายใต้งบประมาณประจำปี 2567
Beach for life จะขอสรุปประเด็นเพื่อชวนทำความเข้าใจว่าทำไม่โครงการดังกล่าวของกรมชลประทาน อาจเป็นโครงการที่ไม่ชอบด้วยกฎหมาย และ ส่งผลกระทบต่อชายหาดอย่างรุนแรง
การก่อสร้างเขื่อนกันน้ำเซาะของกรมชลประทานที่ยื่นตั้งฉากกับชายหาดบริเวณปากคลองหนังนั้น ตั้งอยู่บนพื้นที่ชายหาดที่มีสถานภาพสมดุล ตามรายงานของกรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง ความหมายคือ ชายหาดบริเวณดังกล่าวนั้นไม่ได้มีการกัดเซาะชายฝั่ง ซึ่งหากมีโครงการดังกล่าวนี้เกิดขึ้นอาจทำให้ชายหาดบริเวณนี้เสียสมดุลไป
โครงการดังกล่าวเป็นการสร้างโครงสร้างตั้งฉากกับชายหาดยื่นทับชายหาด 30 เมตร ซึ่งเป็นการขัดขวางการเคลื่อนตัวของตะกอนทรายที่เคลื่อนตัวตามแนวชายฝั่ง และ ทำให้เกิดการกัดเซาะชายฝั่งด้านท้ายน้ำ หรือ End Effect
โครงสร้างเขื่อนกันน้ำเซาะนั้น เข้าข่ายโครงการที่ต้องจัดทำรายงานการประเมินผลกระทบสิ่งแวดล้อม(EIA) ก่อนการดำเนินการ แต่กลับพบว่าโครงการดังกล่าวนั้นไม่มีการจัดทำรายงานการศึกษาผลกระทบสิ่งแวดล้อมก่อนดำเนินการ
เนื่องจากโครงการดังกล่าวเป้นการก่อสร้างสิ่งล่วงล้ำลำน้ำ จึงต้องมีการขออนุญาตก่อสร้างสิ่งล่วงล้ำลำน้ำก่อนการดำเนินการ และก่อนการขออนุญาตจะต้องดำเนินการตามขั้นตอนทางกฎหมายที่กำหนด เช่น การทำ EIA แต่เมื่อกลับพบว่าโครงการดังกล่าวไม่ทำ EIA ก่อนการดำเนินการ การให้อนุญาตก่อสร้างสิ่งล่วงล้ำลำน้ำ จึงไม่ชอบด้วยกฎหมาย
การก่อสร้างโครงการดังกล่าวดำเนินการไปเพื่อป้องกันพนังกันตลิ่งไม่ให้เกิดความเสียหาย แต่ภายหลังการก่อสร้างได้เพียงสองเดือนกลับพบว่า พนังกันตลิ่งด้านหนึ่งทรุดตัว พังเสียหาย ซึ่งสะท้อนให้เห็นว่า โครงสร้างเขื่อนกันน้ำเซาะไม่ได้ช่วยทำให้พนักกันตลิ่งไม่พังทลายไป
การก่อสร้างพนังกันตลิ่ง และ เขื่อนกันน้ำเซาะคลองหนัง ผ่านไปเพียง 2 เดือนกลับพบว่า พังเสียหาย ส่วนหัวของเขื่อนกันน้ำเซาะถูกคลื่นซัดจนทรุดตัว และพนังกันตลิ่งก็พังทรุด ซึ่งสะท้อนให้เห็นว่าการดำเนินการก่อสร้างโครงการดังกล่าวนั้น อาจไม่ได้มาตรฐานการก่อสร้างตามหลักวิชาการ
นี่คือประเด็นสำคัญของโครงการก่อสร้าง “เขื่อนกันน้ำเซาะ” ของกรมชลประทานที่ส่อแวว “ผิดกฎหมาย” และ “ทำลายชายหาด” หลังจากนี้ต้องติดตามต่อไปว่ากรมชลประทานจะดำเนินการอย่างไรกับโครงสร้างดังกล่าว หรือจะปล่อยให้โครงสร้างนี้ทำลายชายหาดสทิงพระต่อไปเรื่อยๆ
แบ่งปันสิ่งนี้
โครงการก่อสร้างเขื่อนป้องกันตลิ่งริมทะเล พร้อมปรับปรุงภูมิทัศน์พื้นที่ชายฝั่งหาดมหาราช อำเภอสทิงพระ จังหวัดสงขลา โครงการนี้ ดำเนินการโดย กรมโยธาธิการและผังเมือง
กรณีพิพาทโครงการป้องกันการกัดเซาะชายฝั่งหาดมหาราช จังหวัดสงขลา ซึ่งภาคประชาชนได้รวมกันฟ้องคดีตั้งแต่ปี 2564 เพื่อขอให้ศาลปกครองสงขลามีคำพิพากษาเพิกถอนโครงการและคำสั่งคุ้มครองชั่วคราว
ในช่วง 2-3 ปีที่ผ่านมากระแสการเรียกร้องให้เกิดการแก้ไขปัญหาการกัดเซาะชายฝั่งด้วยมาตรการเติมทรายชายฝั่งนั้นมีมากขึ้น และหลังจากกรณีการเติมทรายชายฝั่งหาดพัทยาโดยกรมเจ้าท่าแล้วเสร็จ ทำให้ประชาชนเห็นว่ามาตรการเติมทรายนั้น อาจเป็นทางเลือกในการแก้ไขปัญหาการกัดเซาะชายฝั่งได้ และทำให้ได้ชายหาดกลับมา Beach for life ชวนสำรวจพื้นที่ชายหาดที่จะมีการเเก้ไขปัญหาการกัดเซาะชายฝั่งด้วยมาตรการเติมทรายชายฝั่ง