ท่าเรือน้ำลึกมาบตาพุด คงเป็นชื่อที่ใครหลายคนคุ้นหู จากการพัฒนาเศรษฐกิจในยุคยุคโชติช่วงชัชวาล เเละภาพชายหาดเเสงจันทร์ หาดสุชาดา ที่มีลักษณะเว้าเเหว่งไม่เป็นธรรมชาติ คือ มรดกที่ตกทอดให้เห็นถึงผลกระทบของการพัฒนาพื้นที่ชายฝั่งทะเล
ภาพหาดเว้าๆเเหว่ง คล้ายพระจันทร์เสี้ยวเเบบนี้ปรากฎต่อสายตาของใครหลายคน นี่คือ หาดแสงจันทร์ หาดที่เต็มไปด้วยโครงสร้างทางวิศวกรรมในการป้องกันชายฝั่ง ทั้ง เขื่อนกันคลื่น รอดักทราย เเละกำเเพงกันคลื่น ถือได้ว่าเป็นชายหาดที่มีโครงสร้างทางวิศวกรรมหลากรูปเเบบให้ชม
หาดแสงจันทร์ ถึง ปากน้ำระยอง เดิมเคยเป็นหาดเส้นตรงตามธรรมชาติเหมือนหาดอื่นๆ เเต่ด้วยก่อสร้างท่าเรือมาบตาพุด เริ่มก่อสร้างในปี 2532 แล้วเสร็จในปี 2535 การก่อสร้างท่าเรือน้ำลึกมาบตาพุด ซึ่งเป็นการถมทะเล ทำให้ท่าเรือน้ำขัดขวางการเคลื่อนตัวของตะกอนทรายชายฝั่ง เเละรบกวนสมุทรศาสตร์บริเวณนี้ ส่งผลให้ชายหาดสุชาดา หาดแสงจันทร์ จนถึงปากน้ำระยอง เกิดการกัดเซาะชายฝั่งอย่างรุนเเรง
เเละด้วยขนาดท่าเรือที่ใหญ่มาก ทำให้เกิดผลกระทบในวงกว้าง มีความจำเป็นต้องใช้โครงสร้างป้องกันชายฝั่งหล่ดหลายรูปเเบบในการป้องกันการกัดเซาะที่เกิดขึ้น
ชายหาดตั้งเเต่หาดสุชาดา หาดเเสงจันทร์ จนถึงเขื่อนกันทรายเเละคลื่นปากน้ำระยอง ความยาวประมาณ 12 กิโลเมตร จึงถูกป้องกันด้วยโครงสร้างทางวิศวกรรมชายฝั่ง ข้อมูสำรวจพบว่า มีโครงสร้างป้องกันชายฝั่ง ได้เเก่ เขื่อนกันคลื่นนอกฝั่ง 65 ตัว รอดักทรายจำนวน 18 ตัว และกำแพงกันคลื่น รวมถึงโครงสร้างอื่นๆของเอกชนเเละท้องถิ่นที่นำมาป้องกันชายฝั่ง ชายหาดเว้าเเหว่งที่เราเห็นต่างเป็นผลจากการป้องกันชายฝั่งด้วยโครงสร้างทางวิศวกรรม
ถึงเเม้ชายหาดสุชาดา ถึง ปากน้ำระยอง จะมีโครงสร้างป้องกันชายฝั่งตลอดเเนว เเละดูเหมือนว่าปัญหาการกัดเซาะชายฝั่งอันเป็นผลจากท่าเรือน้ำลึกมาบตาพุดจะจบลงไป เเต่ในความเป็นจริงปัญหาการกัดเซาะชายฝั่งบริเวณหาดเเห่งนี่ยังคงเกิดขึ้นเเละกลายเป็นปัญหาที่ท้องถิ่นเเละหน่วยงานภาครัฐต้องดำเนินการเเก้ไข
ไม่เพียงปัญหาการกัดเซาะชายฝั่งที่เกิดขึ้นกับเเนวชายฝั่งทั้ง 12 กิโลเมตร การที่ชายหาดถูกกัดเซาะอย่างรุนเเรงจากโครงการพัฒนาขนาดใหญ่ อย่างท่าเรือมาบตาพุด จนต้องใช้โครงสร้างทางวิศวกรรมจำนวนมาก ทำให้กระทบต่อการท่องเที่ยว มีรายงานเป็นประจำทุกปีว่า "มีนักท่องเที่ยวถูกคลื่นซัดจนเสียชีวิต" ซึ่งเป็นผลกระทบจากการมีโครงสร้างเขื่อนกันคลื่นนองฝั่งที่ใช้ในการป้องกันชายฝั่ง ซึ่งทำให้คลื่นเเละกระเเสน้ำชายฝั่งเปลี่ยนเเปลงไป
ปัจจุบันโครงการท่าเรือน้ำลึกมาบตาพุด กำลังอยู่ระหว่างการดำเนินการก่อสร้างระยะที่ 3 ซึ่งเป็นการถมทะเลขยายพื้นที่ท่าเรือออกไป ในอนาคตคงไม่อาจขาดเดาผลกระทบที่อาจเกิดขึ้นกับชายฝั่งเเละสมุทรศาสตร์ในพื้นที่บริเวณนี้ว่าจะเปลี่ยนเเปลงอย่างไร
Author
Beach For Life
แหล่งรวบรวมความรู้และข้อมูลที่เกี่ยวกับชายหาด
บทความวันที่ 14 มีนาคม 2568
แบ่งปันสิ่งนี้
เขื่อนกันทรายและคลื่น หรือ Jetty คืออะไร ส่งผลกระทบต่อชายหาดอย่างไร รวมถึงการสร้างเขื่อนกันทรายเเละคลื่นเกิดขึ้นมาเเค่ไหน Beach for life ชวนค้นหาคำตอบร่วมกัน
ชายหาดคลองวาฬ จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ มีโครงสร้างป้องกันชายฝั่งหลากหลายชนิด นับตั้งเเต่ปี 2547 เป็นต้นมา เเละ สภาพชายหาดคลองวาฬปัจจุบันไม่เหลือความเป็นชายหาด เต็มไปด้วยเขื่อนต่างๆ ชายหากลายเป็นโคลน ส่งผลกระทบต่อชุมชนเเละการท่องเที่ยวเป็นอย่างมาก
หลายคนอาจสับสนระหว่างคำว่า “เขื่อนกันคลื่น” กับ “กำแพงกันคลื่น” ในทางวิชาการ “เขื่อนกันคลื่นหรือ Breakwater” กับ “กำแพงกันคลื่นหรือ Seawall” นั้น เป็นโครงสร้างป้องกันชายฝั่งคนละประเภทกัน และมีวัตถุประสงค์ และการออกแบบการก่อสร้างที่แตกต่างกันโดยสิ้นเชิง Beach for life ชวนไปรู้จักเขื่อนกันคลื่นด้วยกัน