หาดแตงโม เกาะสุกร ไม่กัดเซาะชายฝั่งเเต่กลับมีมีกำแพงกันคลื่น ถึง 3 โครงการ 1 โครงการซ่อมเเซม
หลายคนติดตามการระบาดของกำแพงกันคลื่น และคิดว่ากำแพงกันคลื่นระบาดเฉพาะบนแผ่นดิน แต่ล่าสุดกำแพงกันคลื่นระบาดไปบนเกาะด้วย !!
หาดเเตงโม ตั้งอยู่เกาะสุกร จังหวัดตรัง เป็นเกาะเล็กๆไม่ใหญ่มาก บริเวณชายหาดที่เรียกว่าหาดเเตงโมนั้น เนื่องจากบริเวณพื้นที่ชายหาดบริเวณนี้มีการปลูกเเตงโมหลายร้อยไร่ ทำให้ ชาวบ้านในพื้นที่เรียกหาดแห่งนี้ว่าหาดแตงโม
หาดแตงโมแห่งนี้มีการร้องขอโครงการจากท้องถิ่นไปยังหน่วยงานที่เกี่ยวข้องว่ามีการกัดเซาะชายฝั่งอย่างรุนแรง ทำให้กรมเจ้าท่า และกรมโยธาธิการและผังเมือง ก่อสร้างกำแพงกันคลื่นต่อเนื่องกันเพื่อป้องกันชายฝั่ง ดังนี้
นอกจากนั้นเเล้วภายใต้งบประมาณปี 2566 ที่กำลังเข้าสู่การพิจารณาของสภาผู้เเทนราษฎรในช่วงกลางปีนี้ มีงบประมาณซ่อมเเซมกำเเพงกันคลื่นของกรมเจ้าท่าที่ก่อสร้างเมื่อปี 2544 โดยกรมเจ้าท่า เหตุผลคือเนื่องจากกำเเพงกันคลื่นเดิมชำรุดเสียหาย กรมเจ้าท่าจึงของบประมาณซ่อมเเซมกำเเพงกันคลื่น จำนวน 112,000,000 บาท ความยาว 1.5 กิโลเมตร
จากภาพถ่ายที่มีการเผยแพร่ผ่านสื่อออนไลน์ทำให้มีข้อสังเกตว่า จริงแล้วหาดแตงโมแห่งนี้กัดเซาะชายฝั่งจริงหรือ ทำไมหน่วยงานถึงทุ่มงบประมาณจำนวนมหาศาลเพื่อป้องกันการกัดเซาะชายฝั่ง บนชายหาดแห่งนี้
จากข้อมูลการกัดเซาะชายฝั่ง ของกรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง ได้ตรวจสอบเส้นแนวชายฝั่ง จากภาพถ่ายดาวเทียม Google Earth ปี พ.ศ. 2549 เทียบเคียงกับเส้นแนวชายฝั่งของกรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง พ.ศ. 2561 และจากการสำรวจเส้นแนวชายฝั่ง ปี พ.ศ. 2562 ในปัจจุบันชายหาดบริเวณหาดแตงโม มีทรายสะสมเป็นชายหาดงอก ถ้านับจากเส้นแนวชายฝั่งปี พ.ศ. 2549 อกไปในทะเล ถึงปีปัจจุบันระยะทางความกว้างของหน้าหาดที่มีทรายสะสมประมาณ 50 เมตร โดยเฉลี่ยตามความยาวของชายหาด ซึ่งแสดงว่าชายหาดไม่มีการกัดเซาะชายฝั่งแต่อย่างใด
คำถามใหญ่ของการป้องกันการกัดเซาะชายฝั่งหาดแตงโม บนเกาะสุกรแห่งนี้ คือ อะไรคือเหตุผลที่หน่วยงานอย่างกรมโยธาธิการและผังเมืองให้อ้างเพื่อก่อสร้างกำแพงกันคลื่นที่มีมูลค่าสูง และป้องกันบนชายหาดที่ไม่มีการกัดเซาะชายฝั่งแบบนี้
หากยังคงปล่อยให้กรมโยธาฯ สร้างกำแพงกันคลื่นบนชายหาดที่ไม่กัดเซาะชายฝั่งต่อไป เราจะสูญเสียงบประมาณแผ่นดินจำนวนมหาศาลให้กับการก่อสร้างกำแพงกันคลื่น
และนี่คือตัวอย่างภาพสะท้อนว่าทำไม โครงการก่อสร้างกำแพงกันคลื่นควรต้องทำ EIA ก่อนการดำเนินการ เพื่อให้โครงการเหล่านี้ถูกตรวจสอบอย่างรอบครอบ รอบด้านมากที่สุด ไม่ใช่คิดจะทำก็ทำ !!
บทความนี้เผยเเพร่เมื่อ 5 มีนาคม 2564
Author
อภิศักดิ์ ทัศนี
รักทะเล เเต่ชอบภูเขา เรื่องสิ่งเเวดล้อม คือ การเมือง
บทความวันที่ 26 กรกฎาคม 2567
แบ่งปันสิ่งนี้
มกราคมของทุกปี เป็นช่วงที่ความกดอากาศสูงกำลังแรงปกคลุมประเทศไทย ทำให้ภาคเหนือ และกรุงเทพมหานครมีอากาศหนาวเย็น และเป็นช่วงเวลาเดียวกันที่ทะเลในภาคใต้ฝั่งอ่าวไทยแปรปรวนและคลื่นลมแรง ซึ่งนับเป็นธรรมชาติของชายหาดและฤดูกาลของทะเลในแถบนี้ ช่วงเวลานี้ อ่าวประจวบคีรีขันธ์ จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ คือ พื้นที่ที่ถูกกล่าวถึงเกี่ยวกับ “คลื่นคลั่ง” หรือ “คลื่นยักษ์” ซึ่งมีความสูงมากถึง 4-5 เมตร ที่ปะทะชายฝั่งและกระโจนข้ามถนนตลอดแนวอ่าวประจวบฯ เกิดอะไรขึ้นทำไมคลื่นจึงคลั่ง ชวนไขคำตอบไปด้วยกัน
การต่อสู้ของภาคประชาชนเเละกลุ่มเยาวชนในจังหวัดสงขลา เพื่อปกป้องหาดชลาทัศน์ ตั้งเเต่ปี 2558 จากโครงการป้องกันการกัดเซาะชายฝั่งหาดสมิหลา-ชลาทัศน์ ดำเนินการโดยผู้ว่าราชการจังหวัดสงขลา ซึ่งจะนำเอาเเท่งคอนกรีตกว่า 1000 เเท่งวางบนชายหาด การต่อสู้ที่ยาวนาน 10 ปีเต็ม ด้วยความหวังในการสร้างบรรทัดฐานทางกฎหมายให้เกิดขึ้น ชวนอ่าน 10 ปี คดีชลาทัศน์
ท่ามกลางห้วงเวลาที่มีการอภิปรายพระราชบัญญัติงบประมาณรายจ่ายประจำปี 2567 ที่กำลังอยู่ในสภาผู้เเทนราษฎรนั้น Beach for life ชวนคลี่เเละส่องงบประมาณเพื่อการป้องกันชายฝั่งในร่างงบประมาณรายจ่ายประจำปี 2567 งบกำเเพงกันคลื่นเยอะเเค่ไหนในปีงบประมาณนี้ ?