อ่าวน้อยหลังศาลพิพากษาชัยชนะของชายหาดผืนสุดท้าย

ประจวบคีรีขันธ์ เมืองสามอ่าว หนึ่งในสามอ่าวของประจวบคือ อ่าวน้อย ซึ่งอยู่ทางตอนเหนือของอ่าวประจวบฯ เป็นอ่าวเล็กๆ มีเขาตาม่องล่าย เเละเขาคั่นกระได เป็นหัวหาดตามธรรมชาติ

ชัยชนะจากการปกป้องอ่าวน้อย ชายหาดผืนสุดท้ายยาว 600 กว่าเมตรได้รับการปกป้องไว้ได้ จากกำเเพงกันคลื่น เเละได้วางบรรทัดฐานทางกฎหมายที่สำคัญไว้ด้วยเช่นกัน

ชายหาดอ่าวน้อย เป็นชายหาดกระเปาะ มีความยาว 1.1 กิโลเมตรตลอดแนวชายหาด มีเขาคั่นกระได และเขาตาม่องล่าย เป็นปราการป้องกันตามธรรมชาติ มีความสมดุลในตัวเอง หากจะเกิดการเปลี่ยนแปลงเชิงกายภาพจะเป็นไปเพียงช่วงเวลาสั้นๆในฤดูมรสุมเท่านั้น หลังจากนั้นจะกลับเข้าสู่สมดุลเดิมตราบเท่าที่ไม่มีการแทรกแซงจากปัจจัยภายนอก(www.Beachlover.net)

ชายหาดอ่าวน้อย ซึ่งมีความสมดุลในตัวเองนั้น มีโครงการก่อสร้างกำแพงกันคลื่นยาว 1.1 กิโลเมตร โดยแบ่งเป็น 3 ระยะโครงการ ระยะที่ 1 ความยาว 450 เมตร ระยะที่ 2 ความยาว 500 เมตร และระยะที่ 3 ความยาว 184 เมตร โดยกรมโยธาธิการเเละผังเมือง ลักษณะการก่อสร้างกำแพงกันคลื่นแบบขั้นบันไดปิดทับบนชายหาดอ่าวน้อยตลอดแนวชายหาด

พื้นที่เเละรูปเเบบโครงการก่อสร้างกำเเพงกันคลื่นอ่าวน้อย

ข้อสังเกตในทางวิชาการจากโครงการก่อสร้างกำแพงกันคลื่นหาดอ่าวน้อย 2 ประเด็นน่าสนใจ คือ
1) รายงานการศึกษาโครงการใน 25 ปี กรณีไม่มีโครงการก่อสร้างกำแพงกันคลื่น ชายหาดทางตอนใต้ที่เป็นชุมชนนั้นจะไม่มีการกัดเซาะใดๆ ส่วนทางทิศเหนือติดกับวัดอ่าวน้อยนั้นจะมีการกัดเซาะเพียง 0.8 ม./ปี เท่านั้น ซึ่งถือว่าน้อยมากจัดเป็นชายหาดที่ยังคงมีเสถียรภาพ ซึ่งจากข้อมูลดังกล่าวพบว่าโครงการนี้แทบไม่มีความจำเป็นในการก่อสร้างกำแพงกันคลื่นแต่อย่างใด (www.Beachlover.net )
2) รูปแบบโครงสร้างกำแพงกันคลื่นแบบขั้นบันได้ที่นำมาใช้ป้องกันการกัดเซาชายฝั่ง นับว่าเป็นโครงการขนาดใหญ่เมื่อเทียบกับความกว้างของหาดอ่าวน้อย หมายความว่า หากวางโครงสร้างลงไปบนชายหาดอ่าวน้อยโครงสร้างจะทับชายหาดเกือบทั้งหมด และพบว่า กำแพงกันคลื่นนั้นยื่นล้ำลงไปในทะเลด้วย ทำให้เราจะเห็นชายหาดได้ในยามน้ำลงเท่านั้น (www.Beachlover.net)


การดำเนินโครงการก่อสร้างกำแพงกันคลื่นหาดอ่าวน้อย ซึ่งมีข้อสังเกตทางวิชาการว่ามีความจำเป็นหรือไม่ และอาจกระทบต่อระบบนิเวศชายหาด ทำให้ประชาชนในพื้นที่ เเละมูลนิธิศูนย์ข้อมูลชุมชน นำคดีไปสู่ศาลปกครอง จังหวัดเพชรบุรี เพื่อฟ้องร้องให้เกิดการเพิกถอนโครงการก่อสร้างกำแพงกันคลื่นหาดอ่าวน้อยในปี 2559 ภายหลังการฟ้องคดี และมีการขอให้มีการคุ้มครองชั่วคราวเพื่อชะลอการดำเนินโครงการ เนื่องจากระหว่างการฟ้องคดีทางกรมโยธาธิการและผังเมืองไม่ได้ยุติการดำเนินโครงการ ทำให้ต่อมาในตุลาคม 2559 ศาลปกครองเพชรบุรี มีสั่งคุ้มครองชั่วคราว ทำให้โครงการก่อสร้างกำแพงกันคลื่นของกรมโยธาธิการ ระยะที่ 1 ที่ก่อสร้างอยู่ ความยาว 140 เมตร นั้นถูกชะลอการดำเนินไป รวมถึงระยะที่ 2-3 ที่ยังไม่ได้ดำเนินการก่อสร้างด้วย


ภาพ กำเเพงกันคลื่นระยะที่ 1


ต่อมาในวันที่ 11กันยายน2562 ศาลปกครอง จ.เพชรบุรี ได้มีคำพิพากษาให้การดำเนินโครงการของกรมโยธาธิการและผังเมืองในการก่อสร้างกำแพงกันคลื่นหาดอ่าวน้อยนั้น ไม่ชอบด้วยกฎหมาย โดยให้กรมโยธาธิการฯต้องดำเนินการขออนุญาตเปลี่ยนแปลงสภาพที่ดินให้ถูกต้องตามกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ ประกอบกฎหมายที่ดินและให้ระงับการก่อสร้างฯ ระยะที่2 และที่3 ที่จะมีการก่อสร้างต่อจากระยะที่1จนกว่าจะได้มีการดำเนินการตามขั้นตอนต่างๆที่กฎหมายกำหนดให้ถูกต้อง โดยการดำเนินการขออนุญาตเปลี่ยนแปลงสภาพที่ดินนั้น ต้องดำเนินการในลักษณะของการออกเป็น พระราชบัญญัติหรือพระราชกฤษฎีกา ทำให้โครงการก่อสร้างกำแพงกันคลื่นหาดอ่าวน้อยในระยะที่ 2-3 นั้น ไม่สามารถดำเนินการได้ในปัจจุบัน

หลังจากคำพิพากษาคดีชายหาดอ่าวน้อย ผ่านไป 3 ปี ชายหาดอ่าวน้อยในพื้นที่ระยะที่ 2-3 นั้น มีสภาพชายหาดสมบูรณ์ มีการเปลี่ยนแปลงไปตามฤดูกาล และถือได้ว่าเป็นชายหาดผืนสุดท้ายของอ่าวน้อย ที่ได้รับการปกป้องไว้ด้วยพลังของประชาชนที่ลุกขึ้นฟ้องคดีต่อศาล


Published by Beach for life

บรรณาธิการกลุ่ม Beach for life

ใส่ความเห็น