ตามที่กลุ่ม Beach for life และเครือข่ายประชาชนทวงคืนชายหาด 93 องค์กร ได้ยื่น
ข้อเรียกร้องสำคัญ 3 ข้อต่อรัฐบาล เพื่อการคุ้มครองปกป้องหาดทรายจากการถูกทำลายด้วย
กำแพงกันคลื่นและกรมโยธาธิการและผังเมือง ดังต่อไปนี้
- ขอให้คณะรัฐมนตรีมีคำสั่งแก้ไขมติคณะที่ประชุมคณะรัฐมนตรี วันที่ 30 กรกฎาคม 2534 และ วันที่ 13 กุมภาพันธ์2539 ที่ให้อำนาจกรมโยธาธิการและ ผังเมืองในการดำเนินการป้องกันและแก้ไขปัญหาการกัดเซาะชายฝั่ง
- ขอให้คณะรัฐมนตรีมีคำสั่งให้กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม นำเอาโครงการกำแพงกันคลื่นกลับมาเป็นโครงการที่ต้องทำการประเมินผลกระทบสิ่งแวดล้อม
- ขอให้คณะรัฐมนตรี มีคำสั่งให้มีการฟื้นฟูสภาพชายหาดที่ได้รับความเสียหายจากการก่อสร้างกำแพงกันคลื่น โดยเฉพาะหาดท่องเที่ยวสำคัญของประเทศไทย เพื่อฟื้นฟูชายหาดให้กลับมาดังเดิม
กลุ่ม Saveหาดม่วงงาม นักรบผ้าถุง เครือข่ายจะนะรักษ์ถิ่น กลุ่ม Saveหาดมหาราช และประชาชนผู้ได้รับผลกระทบจากโครงการก่อสร้างกำแพงกันคลื่นตลอดแนวชายฝั่งจังหวัดสงขลา ขอเรียกร้องให้รัฐบาลรีบเร่งดำเนินการตามข้อเรียกร้องทั้ง 3 ข้อ ของกลุ่ม Beach for life และเครือข่ายประชาชนทวงคืนชายหาดเพราะด้วยเหตุผลที่ผ่านมาการกำหนดนโยบายในการแก้ไขปัญหาการกัดเซาะชายฝั่งของรัฐบาลนั้นล้มเหลว และขาดประสิทธิภาพในการแก้ไขปัญหาการกัดเซาะชายฝั่งทำให้เกิดการกัดเซาะชายฝั่งเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง เป็นผลจากการปล่อยให้กรมโยธาธิการและผังเมือง มีอำนาจในการแก้ไขปัญหาการกัดเซาะชายฝั่ง โดยที่ได้รับงบประมาณในการแก้ไขปัญหาการกัดเซาะชายฝั่งมากที่สุด แต่ไม่มีความรู้ ความเข้าใจในการแก้ไขปัญหาการกัดเซาะชายฝั่งอย่างยั่งยืนได้ อีกทั้งการเพิกถอนกำแพงกันคลื่นออกจากโครงการที่ต้องจัดท ารายงานการประเมินผลกระทบสิ่งแวดล้อม(EIA) เป็นช่องวางที่ทำให้กรมโยธาธิการอาศัยประโยชน์จากการที่กำแพงกันคลื่นไม่ต้องทำEIA ดำเนินการก่อสร้างกำแพงกันคลื่นทั่วทุกชายฝั่งในประเทศไทย 107 โครงการจาก 125 โครงการหลังถอดกำแพงกันคลื่นออกจาก EIA ใช้งบประมาณ 6,694,899,400 บาท แต่กลับสร้างความเสียหายต่อชายฝั่งทำให้ชายหาดหายไป ทำให้เกิดการกัดเซาะชายฝั่งอย่างต่อเนื่อง แทนที่จะเป็นการแก้ไขปัญหาแล้วประสบความสำเร็จ มีประสิทธิภาพ ไม่เกิดปัญหาการกัดเซาะชายฝั่งในพื้นที่ใหม่ แต่กลับสร้างปัญหาการกัดเซาะชายฝั่งในพื้นที่ใหม่อย่างต่อเนื่อง และต้องถลุงงบประมาณเพื่อป้องกันชายฝั่งต่ออย่างไม่จบสิ้น นอกจากนั้น กรมโยธาธิการฯ ยังกลายเป็นกรม
ต้นเหตุที่ทำให้เกิดความขัดแย้งระหว่างประชาชนด้วยกัน และ ประชาชนกับรัฐในการดำเนินโครงการก่อสร้างกำแพงกันคลื่น และมีการฟ้องร้องคดีต่อศาลอย่างต่อเนื่อง ดังที่เกิดขึ้นกับพื้นที่ชายหาดม่วงงาม หาดมหาราช จังหวัดสงขลา เป็นต้น
และการเพิกถอดกำแพงกันคลื่นออกจาก EIA เป็นการเปิดช่องให้รัฐใช้ช่องว่างนี้ ถลุงงบประมาณเพื่อทำลายชายหาด โดยไม่เลือกสรรวิธีการอื่นๆที่ดีกว่าในการแก้ปัญหาป้องกันชายฝั่ง ซึ่งถือเป็นการด าเนินนโยบายที่ผิดพลาดอย่างร้ายแรงของรัฐ และด้วยเหตุผลประการทั้งปวงจึงไม่ควรปล่อยให้กำแพงกันคลื่นดำเนินโครงการไปโดยปราศจากการทำ EIA สำคัญกว่านั้นคือไม่ควรให้กรมโยธาธิการฯ ดำเนินการแก้ปัญหาป้องกันชายฝั่งอีกต่อไป
กลุ่ม Saveหาดม่วงงาม นักรบผ้าถุง เครือข่ายจะนะรักษ์ถิ่น กลุ่ม Saveหาดมหาราช และประชาชนผู้ได้รับผลกระทบจากโครงการก่อสร้างกำแพงกันคลื่นตลอดแนวชายฝั่งจังหวัดสงขลา ขอเรียกร้องให้รัฐบาลเร่งดำเนินการตามข้อเรียกร้องทั้ง 3 ข้อ ของกลุ่ม Beach for life และเครือข่ายประชาชนทวงคืนชายหาดโดยด่วน และพวกเราขอส่งเสียงเตือนไปยังรัฐบาลว่า ครบกำหนด 10 วัน ในวันที่ 6 ธันวาคมนี้ หากข้อเรียกร้องทั้ง 3 ข้อ ไม่เป็นไปตามที่ทางกลุ่ม Beach for life พวกเราทั้งหมด จะเคลื่อนพลบุกกรุง เพื่อร่วมสมทบขึ้นไปทวงถามที่กรุงเทพมหานคร พร้อมกับกลุ่ม Beach for life และเครือข่ายประชาชนทวงคืนหาดชายหาดอย่างแน่นอน
เราจักไม่ยอมปล่อยให้ชายหาดถูกทำลายย่ำยีอีกต่อไป เราขอส่งเสียงพูดแทนชายหาด และทวงคืนชายหาดของประชาชน กลับสู่ประชาชน
แถลงไว้ วันที่ 3 ธันวาคม 2565
เครือข่ายประชาชนทวงคืนชายหาด จ.สงขลา