ในเดือน กรกฎาคม 2564 รมต.วราวุธ ศิลปอาชา ได้ประกาศให้ การกัดเซาะชายฝั่ง เป็นวาระเเห่งชาติ เเละได้ให้กรมทรัพยากรทางทะเลเเละชายฝั่ง นั้น ดำเนินการจัดทำ Environmental Checklist For Seawall and Revetment โดยอาศัยอำนาจมาตรา 21 แห่งพระราชบัญญัติส่งเสริมบริหารจัดการทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง พ.ศ.2558 เพื่อทดแทนการทำให้กำแพงกันคลื่นนั้นต้องกลับไปทำการประเมินผลกระทบสิ่งเเวดล้อม(EIA) จาถึงเวลานี้ Environmental Checklist For Seawall and Revetment ก็ยังไม่แล้วเสร็จ และมีโอกาสที่จะล่าช้าไม่สามารถประกาศได้เร็วๆนี้อย่างแน่นอน Beach for life จึงอยากชวนไปไล่เรียงดู Timeline และเหตุผลที่ Environment checklist Sea wall and Revetment อาจเป็นทางร่วงมากกว่าทางรอด
Environmental Checklist For Seawall and Revetment คือ อะไร ?
Environmental Checklist For Seawall and Revetment คือ รายการข้อมูลด้านสิ่งแวดล้อม สำหรับโครงการก่อสร้างกำแพงป้องกันคลื่นริมชายหาดและเขื่อนป้องกันตลิ่งริมทะเล (Environmental Checklist For Seawall and Revetment) (ฉบับร่าง) เพื่อนำข้อมูลไปประกอบการทบทวนรายการข้อมูลด้านสิ่งแวดล้อมสำหรับโครงการก่อสร้างกำแพงป้องกันคลื่นริมชายหาด ดำเนินการประกาศโดยอาศัย มาตรา 21 แห่งพระราชบัญญัติส่งเสริมบริหารจัดการทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง
Environmental Checklist For Seawall and Revetment ที่เเท้งก่อนคลอด !
การผลักดันให้เกิดการใช้มาตรการ Environmental Checklist For Seawall and Revetment นั้น เกิดขึ้นก่อนการประกาศวาระการกัดเซาะชายฝั่งเป็นวาระเเห่งชาติ เสียอีก โดย ได้มีการว่าจ้างจัดทำคู่มือในการจัดทำรายการข้อมูลด้านสิ่งเเวดล้อมเเละคู่มือคณะกรรมการพิจารณารายงานการประเมินผลกระทบสิ่งเเวดล้อม สำหรับโครงการก่อสร้างกำเเพงกันคลื่นนั้น ตั้งเเต่ วันที่ 7 พฤษภาคม 2563 โดยกรมทรัพยากรทางทะเลเเละชายฝั่ง ผ่านมา จนถึงวันนี้ การผลักดันมาตรการ Environmental Checklist For Seawall and Revetment ตาม มาตรา 21 เเห่งพระราชบัญญัติส่งเสริมบริหารจัดการทรัพยากรทางทะเลเเละชายฝั่งนั้น เพื่อเสนอออกเป็นกฎหมายนั้น ล่าสุด Environmental Checklist For Seawall and Revetment นั้นไม่สามารถประกาศใช้ได้เนื่องจาก ไม่ได้มีการรับฟังความคิดเห็นของผู้มีส่วนเกี่ยวข้องและวิเคราะห์ผลกระทบที่อาจเกิดขึ้นจากกฎหมายอย่างรอบด้านและเป็นระบบ รวมถึงการเปิดเผยผลการรับฟังความคิดเห็นและการวิเคราะห์ผลกระทบนั้นแก่ประชาชนและนำผลนั้นมาประกอบการพิจารณาในกระบวนการตรากฎหมายทุกขั้นตอน ตามแนวทางปฏิบัติของสำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรีกำหนดให้หน่วยงานรัฐที่จะเสนอร่างกฎหมายปฏิบัติตามกฎกระทรวงกำหนดร่างกฎหมายที่ต้องจัดทำการรับฟังความคิดเห็นและวิเคราะห์ผลกระทบ พ.ศ. 2565 ซึ่งการจัดทำ Environmental Checklist For Seawall and Revetment ไม่ได้ดำเนินการตามกฎกระทรวงที่กล่าวมาทำให้ ต้องกลับไปดำเนินการตามขั้นตอนทางกฎหมายที่กำหนดก่อน จึงเสมือนว่า การดำเนินการที่พยามจะประกาศ Environmental Checklist For Seawall and Revetment ถูกทำแท้งก่อนที่จะคลอดออกมา ซึ่งทำให้หลังจากนี้ประชาชนต้องรอต่อไป เพื่อให้กรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง ดำเนินการตามขั้นตอนทางกฎหมายจนกว่าจะแล้วเสร็จ ครบถ้วน ซึ่งคาดว่าคงใช้ระยะเวลาอีกนาน
เท่ากับว่า ณ เวลานี้ กำเเพงกันคลื่นยังคงระบาดโดยไร้มาตรการทางกฎหมายที่จะควบคุมผลกระทบสิ่งเเวดล้อม
ซึ่งนั้นหมายความว่า ณ เวลานี้ การก่อสร้างกำแพงกันคลื่น จึงไม่จำเป็นต้องศึกษาผลกระทบสิ่งแวดล้อมดังเดิม ถึงแม้ว่า กรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง จะชี้แจงว่า ที่ผ่านมามีการตั้งคณะกรรมการกลั่นกรองงบประมาณ ก่อนเสนองบประมาณของหน่วยงานต่างๆไปยังสำนักงบประมาณในโครงการป้องกันชายฝั่งของกรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง กรมเจ้าท่า และกรมโยธาธิการและผังเมือง ซึ่งเป็น 3 กรมหลักในการดำเนินงานป้องการชายฝั่ง แต่อย่างไรก็ตามคณะกรรมการกลั่นกรองนี้ ตั้งขึ้นมาเพื่อให้เกิดการบูรณาการกันในเชิงงบประมาณ ไม่ให้เกิดความทับซ้อนของโครงการระหว่างหน่วยงาน และเพื่อพิจารณาความเหมาะสมของโครงการก่อนของบประมาณต่อไป ซึ่งเป็นแนวทางที่ดีที่จะให้เกิดการบูรณาการ แต่การที่โครงการก่อสร้างกำแพงกันคลื่นนั้น ไม่ต้องทำ EIA การตั้งคณะกรรมการกลั่นกรองโครงการฯ จึงไม่ได้เป็นการตอบโจทย์ของการทำให้โครงการของรัฐนั้นถูกศึกษาผลกระทบสิ่งแวดล้อมอย่างรอบด้าน ตามที่รัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทยวางหลักประกันสิทธิให้แก่ประชาชน ว่า โครงการที่มีผลกรทะบต่อสิ่งแวดล้อม วิถีชุมชนอย่างร้ายแรง รัฐต้องศึกษาผลกระทบสิ่งแวดล้อมก่อนดำเนินโครงการ และจัดให้มีการรับฟังความคิดเห็นของประชาชนก่อนดำเนินโครงการ ซึ่งในเมื่อโครงการของรัฐ โดยเพราะกำแพงกันคลื่นที่รุกคืบ ระบาด เกิดขึ้นเรื่อยๆ โดยไร้มาตรการทางกฎหมายในการควบคุม ตรวจสอบให้เกิดความรอบครอบนั้น จึงไม่มี

นอกจากนั้น การที่โครงการก่อสร้างกำแพงกันคลื่นนั้นไม่ได้กำหนดให้มีการศึกษาผลกระทบสิ่งแวดล้อม ผลกระทบที้เกิดขึ้นจากโครงการก่อสร้างกำแพงกันคลื่น จึงไม่ได้ถูกศึกษาและเยียวยาผลกระทบภายหลังจากการก่อสร้าง ในหลายพื้นที่ที่เกิดการก่อสร้างไปแล้วและมีผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม หน่วยงานเจ้าของโครงการก็ไม่ได้ดำเนินใดๆเพื่อบรรเทาหรือจัดการผลกระทบเหล่านั้น แต่หากมีการศึกษาผลกระทบทางสิ่งแวดล้อมภายใต้การจัดทำ EIA ผลกระทบทางสิ่งแวดล้อม และผลกระทบต่อชุมชน ย่อมได้รับการระบุอยู่ในรายงานการศึกษาผลกระทบสิ่งแวดล้อม(EIA) และสามารถที่จะบังคับให้หน่วยงานเจ้าของโครงการนั้น แก้ไขปัญหาหรือบรรเทาผลกระทบเหล่านั้นได้

กล่าวโดยสรุป Environmental Checklist For Seawall and Revetment ที่กรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง เตรียมดำเนินการถูกทำให้แท้ง ไม่สามารถคลอดได้โดยเร็วนั้น Environmental Checklist For Seawall and Revetment ยังไม่สามารถทดแทน EIA กำแพงกันคลื่นได้ เนื่องจาก ไม่ใช่หลักประกันสิทธิของประชาชนตามรัฐธรรมนูญ ที่กำหนดให้โครงการที่มีผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม และวิถีชีวิต ต้องจัดทำ EIA และรับฟังความคิดเห็นของประชาชนก่อนดำเนินโครงการ
