หน้าสตน คราบน้ำตาชุมชนเมื่อกำเเพงกันคลื่นมาหยุดหลังบ้าน บทความชิ้นนี้ เขียนเพื่ออธิบายถึงผลกระทบของโครงการก่อสร้างกำเเพงกันคลื่นหาดตำบลหน้าสตน อำเภอหัวไทร จังหวัดนครศรีธรรมราช โดยกรมโยธาธิการและผังเมือง จนทำให้เกิดการกัดเซาะชายฝั่งอย่างรุนแรงโครงการก่อสร้างเขื่อนป้องกันการกัดเซาะชายฝั่งทะเล พื้นที่ตำบลหน้าสตน อำเภอหัวไทร จังหวัดนครศรีธรรมราช ระยะที่ 2 ความยาว 2,815 เมตร ต่อเนื่องจากระยะที่ 1ทำให้เกิดการกัดเซาะชายฝั่งด้านท้ายน้ำอย่างรุนเเรง จนบ้านเรือนประชาชน สวนมะพร้าว ได้รับความเสียหายจากกำเเพงกันคลื่นย้อนกลับไป สำรวจหาดหน้าสตน เเห่งนนี้ สภาพชายหาดสมบูรณ์ ไร้ร่องรอยการกัดเซาะชายฝั่ง ชายหาดยังคงเป็นธรรมชาติ มีการใช้ประโยชน์หาดทราย ในการจอดเรือ คนนั่งพักผ่อนริมชายหาด


ภาพที่เเสดง ถึงเเม้จะมีการก่อสร้างกำเเพงกันคลื่นเเล้วนั้น ภาพถ่ายมุมสูงด้วยโดรน จากกรมทรัพยากรทางทะเลเเละชายฝั่ง เเสดงให้เห็นว่าจุดสิ้นสุดของกำเเพงกันคลื่น ในช่วงก่อนมรสุมนั้น ยังคงมีสภาพปกติ ไม่มีการกัดเซาะชายฝั่งอย่างรุนเเรง


สภาพชายหาดด้านท้ายน้ำของกำเเพงกันคลื่นหาดบ้านหน้าสตน ก่อนมีมรสุม เเสดงให้เห็นว่า บริเวณนี้มีหาดกว้าง ไม่มีการกัดเซาะชายฝั่งมาก่อน

สภาพชายหาดบ้านหน้าสตน ด้านเหนือของกำเเพงกันคลื่น มีสภาพชายหาดสมบูรณ์ ไม่มีการกัดเซาะชายฝั่งหลังจากการก่อสร้างกำแพงกันคลื่นหาดตำบลหน้าสตน ระยะที่ 2 ทำให้เกิดการกัดเซาะชายฝั่งอย่างรุนแรง บ้านเรือน สวนมะพร้าวของประชาชนได้รับความเสียหายกว่า 20 ราย ในพื้นที่หมู่ที่ 5-6 กว่า 1,000 เมตรตลอดเเนวชายหาด

การกัดเซาะชายฝั่งเช่นนี้เป็นผลกระทบจากการเลี้ยวของคลื่นบริเวณด้านท้ายน้ำของกำเเพงกันคลื่น ประกอบกับลักษณะของกำเเพงกันคลื่นอันนี้มีด้านปลายที่ยื่นล้ำ คล้ายรอดักทราย ทำให้ส่งผลกระทบต่อการกัดเซาะชายฝั่งที่มากกว่า โครงสร้างที่ลู่เข้าสู่เเผ่นดิน ดังภาพ

การเลี้ยงเบนของคลื่นบริเวณด้านท้ายน้ำของกำเเพงกันคลื่นการเลี้ยวเบนของคลื่นบริเวณด้านท้ายน้ำของกำเเพงกันคลื่น ที่กรมโยธาธิการดำเนินการนั้น ส่งผลทำให้เกิดการกัดเซาะชายฝั่งตลอดเเนวชายฝั่งกว่า 1 กิโลเมตร ทำให้บ้านเรือนประชาชน สวนมะพร้าว ที่ดินของประชาชนได้รับความเดือนร้อนเสียหายอย่างมาก จากโครงการของรัฐ

